Florence

Florence เป็นอีกหนึงสถานที่ที่พัดอยากมามาก พัดชอบที่ในเมืองสถาปัตยกรรมก็สวยงามมาก  และนอกเมืองเป็นชนบทที่น่ารักรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ แต่ที่ตื่นเต้นที่สุดคือโรงแรมที่พัดจองไว้น่าพักมากกกกกก เห็นแล้วรู้สึกว่าต้องมาที่นี่ให้ได้ถือเป็นโรงแรม highlight ของทริปนี้เลยก็ว่าได้   ทริปนี้พัดเริ่มจากลงเครื่องที่โรมแล้วเช่ารถขับค่ะ แวะPianzaทานข้าวเดินเล่นก่อนแล้วค่อยไปโรงแรมที่พักซึ่งอยู่Florenceใช้เวลาประมาณ 5ชั่วโมงกว่า ก็นานพอสมควรค่ะ

หลังจากอิ่มท้องและเดินย่อยไปบ้างก็รีบขับตรงดิ่งไป Florence เข้าcheck-in ที่โรงแรมกันค่ะเพราะเหนื่อยมากแล้ว ในที่สุดเราก็มาถึงยังที่พักในฝัน “Villa Cora” ที่นี่เคยเป็นบ้านขุนนางสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1868 สมัยที่ Florence ยังเป็นเมืองหลวงอยู่ค่ะ ที่นี่เหมือนเป็นLove at first sight ของพัดเลยค่ะ สถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในที่นี่งดงามตรึงตาตรึงใจมากจริง ๆ เหมือนเราได้หลุดเข้าไปอยู่ในสมัยที่Florenceยังรู่งเรือง พัดมโนหนักมากค่ะพูดเลย ที่นี่แบ่งออกเป็น 2 อาคารค่ะ ส่วนอาคารหลักจะเป็น Lobby และห้องอาหารเช้า อีกอาคารติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นส่วนของห้องพักค่ะ ทั้ง 2 อาคารจะมีทางเชื่อมใต้ดินค่ะ(เก๋มากมาย) และมีสปาอยู่ชั้นใต้ดินด้วยค่ะ และที่เริ่ดอีกอย่างคือถึงเราจะไม่เข้าสปาแต่ก็สามารถมาใช้ Jacuzzi น้ำร้อนที่สปาได้ค่ะ ฟรีด้วย! เหมาะกับการมาแช่ตัวผ่อนคลายจากjet-lagมาก ๆ จัดไปค่ะ 🙂

ความดีงามก็ที่นี่ยังไม่หมดแค่นั้นนะคะ ที่นี่มีrooftopให้ขึ้นไปนั่งชมวิวเมืองFlorenceได้อีกด้วยค่ะ

 

เนื่องจากวันนี้เหนื่อยจากการเดินทางมามากทั้งเครื่องบินทั้งขับรถ(พูดเหมือนขับเอง555) พัดเลยทานอาหารเย็นที่ร้านของโรงแรมซึ่งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำค่ะ ตอนแรกไม่คาดหวังอะไรมากเท่าไหร่เพราะไม่ได้ทำการบ้านหรือดูรีวิวอะไรร้านนี้ไว้เลยกะว่าเอาสะดวกเพราะหมดแรง แต่เซอร์ไพรซ์มากกกก อาหารที่นี่อร่อยสุด ๆ ดีทุกจาน ฟินกับLambและฟัวกราส์มากจีๆ เรียกว่าเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดที่อยู่ Florence เลยก็ว่าได้ มีลูกค้าที่ไม่ใช่แขกของโรงแรมเข้ามาทานอาหารที่นี่กันพอสมควรเลยค่ะเกือบจะเต็มร้าน

 

วันถัดมาพัดทาน Breakfastที่โรงแรม บรรยาศดีมาก ๆ จะเลือกทานด้านในหรือระเบียงด้านนอกก็ได้ค่ะ  อาหารเช้าจะเป็นbuffet selectionค่อนข้างเยอะนะคะ

แล้วก็ได้เวลาตะลุยFlorenceแล้วค่ะ อ้อที่โรงแรมมีShuttle busไปส่ง-รับกลับระหว่างโรงแรมกับcity centerด้วยนะคะใช้เวลาประมาณ5นาทีก็ถึง(ฟรีอีกแล้วค่ะ) แถมยังไม่ต้องมารอเป็นรอบ ๆ ตามตารางเวลาด้วยใช้วิธีโทรนัดเอา อยากออกกี่โมงอยากให้มารับกี่โมงก็ตามสบายเลยค่ะ

 

เริ่มจากเข้าเมืองไป Santa Maria del Fiore หรือมหาวิหารฟลอเรนซ์กันก่อนซึ่งเป็นมหาวิหารสำคัญที่อยู่ในช่วงระหว่างกอธิคและเรเนสซอง พัดได้แต่เดินเล่นและถ่ายรูปรอบ ๆ เพราะคิวเข้าไปชมด้านในยาวเป็นกิโล สู้ไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ หลังจากนั้นก็เดินชมรอบ ๆ เมืองแวะทานข้าวและไปชมสะพาน Ponte Vecchio ซึ่งเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง จุดเด่นของสะพานนี้คือไม่ได้เป็นทางเดินข้ามธรรมดาเหมือนสะพานทั่วไปแต่ยังเป็นเหมือนตึกแถวมีร้านค้าตลอดทางด้วยค่ะ ดูมีสเน่ห์มาก

 

จากนั้นเราก็ไปจุดชมวิวที่ว่ากันว่าสวยที่สุดที่สามารถมองเห็นเมืองFlorenceได้ทั้งเมืองที่ “Piazzale Michelangelo” ค่ะ กว่าจะเดินขึ้นมาถึงก็ทำเอาหอบเหมือนกันนะคะ  เพราะฉะนั้นใครที่มากับผู้ใหญ่แนะนำว่านั่งแท็กซี่ขึ้นมาก็ได้ค่ะ

 

Tips :

สำหรับข้อเสียของเมืองนี้ก็มีอยู่เหมือนกันค่ะ คือ…อาหารItalianที่นี่ไม่ค่อยอร่อย ขนาดsteakที่เป็นsignatureของขึ้นชื่อประจำเมือง(ชื่ออะไรสักอย่างจำไม่ได้ค่ะขออภัย)ยังไม่อร่อยเลยค่ะ ทั้งเหนียวทั้งไหม้ชิ้นก็ใหญ่เว่อออออร์ อาหารFlorenceสู้เมืองอื่น ๆ ไม่ได้เลยค่ะ เพราะฉะนั้นร้านไหนที่พัดไปทานแล้วรู้สึกไม่ปลาบปลื้มพัดขอข้ามไม่พูดถึงแล้วกันนะคะ  Florenceเป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ถ้าใครตั้งใจจะเดินเที่ยว(พัดแนะนำวิธีนี้นะคะ)ใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่เดินสบายจะดีที่สุดค่ะ อีกอย่างเค้าว่ากันว่าอิตาลีนั้นน่ากลัวโจรชุมพวกล้วงกระเป๋าก็เยอะมาก แม้แต่เพื่อนคนไทยที่มาอยู่ที่นี่ครึ่งปีแล้วก็โดนไปหลายรอบ  แต่โดยส่วนตัวพัดว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะถ้าเราระวังตัว Tipsของพัดคือเวลาพัดไปเที่ยวพัดจะใช้กระเป๋าสะพายcross-bodyแบบมีซิปหรือมีตัวล็อกแล้วสะพายให้ตัวกระเป๋าอยู่ด้านหน้าตลอดเวลา และไม่ลืมปิดซิปให้ดี ถ้าเป็นฝาปิดมีตัวล็อกให้เอาฝั่งตัวล็อกแนบตัวค่ะ บางทีก็สะพายแล้วเอาเสื้อโค้ทคลุมทับซะเลย ทั้งทริปนี้และทริปอื่น ๆ ไม่ว่าจะไปไหนเลยรอดกลับมาอย่างปลอดภัยมาโดยตลอดค่ะ ลองทำกันดูนะคะ

You may also like