Six Senses Yao-noi, heaven on earth

“ยาวน้อย”  เกาะนี้เป็นยังไง มีอะไรบ้าง ก่อนมาพัดไม่รู้เลยค่ะ รู้แต่มีรีสอร์ท Six Senses Yao Noi แค่นี้ก็มากพอที่แพ็กกระเป๋าและจองตั๋วมาแล้วล่ะค่ะ เพราะที่นี่น่าพักม๊ากกกกกก วิวสวยที่สุดของที่สุด เกาะยาวน้อยเป็นเกาะที่อยู่ทะเลฝั่งอันดามันค่ะ  สำหรับใครที่อยากมา เกาะนี้อยู่ระหว่างจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ สามารถขึ้นเรือมาได้จากทั้ง 3 จังหวัด ส่วนตัวพัดเลือกมาจากทางภูเก็ตค่ะเพราะว่าอยากแวะเที่ยวภูเก็ตต่อด้วย

เมื่อถึงสนามบินภูเก็ตทางโรงแรมจะมีรถมารับเพื่อไปส่งที่ท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่าเพื่อขึ้น private speedboat ของทางโรงแรมไปยังเกาะยาวน้อยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึงเกาะแล้วค่ะ พอใกล้ถึงโรงแรมก็จะเห็นพนักงานโรงแรมมายืนรอต้อนรับกันเป็นขบวนอยู่ที่ท่าเรือ เรียกว่าประทับใจตั้งแต่ยังไม่ก้าวออกจากเรือกันเลยทีเดียว น้ำทะเลที่นี่ใสมากมองจากเรือก็เห็นปลาตัวเล็ก ๆ ว่ายไปมารอบเรือเต็มไปหมดเลยค่ะ

 

สิ่งที่พัดประทับใจที่นี่มาก ๆ อีกอย่างหนึ่งที่หาได้ยากจากโรงแรมอื่น ๆ ที่เคยพักคือ เค้ามีห้องพักชั่วคราวสำหรับแขกที่มาถึงเร็วก่อนเวลาcheck-in ด้วยค่ะ โอ้ยมันช่างดีงาม  เนื่องจากพัดถึงโรงแรมตั้งแต่ 10 โมงเช้าเพราะฉะนั้นแขกจะยังไม่ check-out จึงยังไม่สามารถเข้าห้องพักได้ ห้องพักสำรองที่เตรียมไว้ให้พักผ่อนอยู่ที่ Hill Top ค่ะ  ห้องพักใหญ่และวิวดีมาก ๆ ดีกว่าห้องที่พัดพักจริงอีกค่ะ Hill Top เป็น Pool Villa หลังใหญ่สุดของที่นี่แต่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหารและบริเวณพักผ่อนให้แขกในโรงแรมได้เข้ามาใช้บริการได้แทนค่ะ

 

ในส่วนของLobbyที่นี่ก็สวยมาก ๆ ค่ะ  มีสวนดอกบัวรายล้อมเต็มไปหมด ตรงนี้กลางคืนเปิดเป็นห้องอาหารเย็นและบาร์ด้วยนะคะเรียนกว่า “The Den” ค่ะ

 

ห้องที่พัดพักเป็น Ocean View Pool Villa มองเห็นทะเลและเกาะเล็กเกาะน้อยได้อย่างชัดเจนไม่ได้เห็นแว๊บ ๆ หลบอยู่หลังต้นไม้เหมือนบางโรงแรมนะคะ ห้องน้ำใน villa ใหญ่มากมีทั้งอ่างอาบน้ำ shower outdoor และ shower ด้านในมีก็ steam ด้วยค่ะ

 

ก่อนมาทางโรงแรมได้ส่ง e-mail มาสอบถามก่อนว่าต้องการอะไรบ้าง ทั้งกลิ่นของสบู่ ของใช้เพิ่มเติมเช่น เสื่อโยคะ กระจกแต่งหน้า เครื่องชั่งน้ำหนัก เมื่อมาถึง ของทุกอย่างก็ได้ถูกจัดไว้พร้อมหมดแล้วค่ะ นอกจากนี้เรายังมี butler ประจำตัวที่จะคอยดูแลเราตลอดการเข้าพักที่นี่ค่ะ ไม่ว่าจะอยากได้อะไร จะจองร้านอาหารหรือ activity เค้าก็จะจัดการให้เราค่ะ (ขนาดตอนเช้ายังมาหาถึงห้องอาหารเช้าเลยค่ะ)

 

ถึงใครจะมาอยู่ที่นี่หลายวันก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเบื่อนะคะ เพราะที่นี่มีห้องอาหาร 4  ห้อง “The Living Room”, “The Den”, “The Hill Top Reserve” และ “The Dining Room & Chef Table” ค่ะ  มีสปา และactivity ให้ทำอีกเยอะมาก ๆ ทั้งต่อยมวย snorkeling ปั่นจักรยาน โยคะ windsurf เรียนทำอาหาร และอีกเต็มไปหมดเลยค่ะ จริง ๆ สำหรับพัดแค่นอนดูวิวที่นี่ก็มีความสุขมากแล้วล่ะค่ะ สำหรับโรงแรมนี้สิ่งที่พัดชอบมาก ๆ ก็คือเค้าใช้ผักผลไม้ organic ทั้งหมดแถมยังปลูกผักและสมุนไพรเองด้วย และยังเลี้ยงไก่เพื่อเก็บไข่ไว้ใช้ทำอาหารให้แขกในโรงแรมด้วยนะคะ  ที่นี่จะไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเลย (อยู่ที่นี่เราก็จะได้เจอตั๊กแตนและผีเสื้ออยู่เรื่อย ๆ ค่ะ ) เพราะฉะนั้นทุกคนสบายใจได้ค่ะว่าจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์จริง ๆ และได้ทานอาหารที่ปราศจากสารปนเปื้อน ช่างเหมาะกับการมาผ่อนคลายร่างกายและจิตใจเป็นที่สุด !!

 

สำหรับการบริการพัดให้คะแนนเต็มสิบเลยค่ะ  เค้าใส่ใจทุกรายละเอียดและเต็มที่กับแขกทุกคนจริง ๆ การตกแต่งก็สวยงามและกลมกลืนกับธรรมชาติ  แต่สำหรับรสชาติอาหารของที่นี่หลังจากทานมาแล้วทุกห้องอาหารพัดว่ายังเฉย ๆ คือค่อนข้างดีแต่ไม่wow ถ้าเที่ยบกับราคาอาหารแล้วคิดว่าไม่ปลื้มขนาดนั้นค่ะ  ในส่วนของสปาก็บริการดีซึ่งพัดได้เข้าไปใช้บริการนวด aroma therapy รู้สึกว่า skill การนวดของ therapist นั้นยังเฉย ๆ ถ้าเทียบกับที่อื่น ๆ ในระดับเดียวกันรวมถึงห้องสปาก็ตกแต่งดูธรรมดาเกินไป ถ้าใครเป็นขานวดหรือเสพติดการเข้าสปาแบบพัดก็อาจจะไม่ประทับใจมากนักค่ะ ยังไงที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่พัดจะต้องกลับมาใหม่อีกแน่นอนค่ะเพราะเลิฟมากจริง ๆ  🙂

You may also like