Santorini ถือเป็นเมืองในฝันของพัดเลยค่ะอยากมาที่นี่มานานมากแล้ว อยู่ใน bucket list ที่พัดตั้งใจว่าจะต้องมาให้ได้ในที่สุดก็ได้มา แล้วก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะเพราะเป็นเมืองที่สวยและมีสเน่ห์มาก ๆ เรียกว่าตกหลุมรักเมืองนี้เลยก็ว่าได้
พัดอยู่ที่ Santorini 4 วัน 3 คืนค่ะตามนี้เลยค่ะ
Itinerary
- วันที่ 1 พักที่ Oia เดินทางมาจาก Athens ถึงช่วงบ่าย แล้วเดินเล่น ดูพระอาทิตย์ตก และทานอาหารเย็นใน Oia
- วันที่ 2 พักที่ Oia เช้าไปเดินเล่นทานอาหารกลางวันใน Oia แล้วช่วงบ่าย-เย็นล่องเรือ Sunset Cruise
- วันที่ 3 ย้ายที่พักไปที่หมู่บ้าน Imerovigli
- วันที่ 4 เดินไปหมู่บ้าน Firostefani ทานอาหารกลางวัน แล้วเดินทางออกจาก Santorini ไปโรมช่วงบ่าย
สำหรับ Ariticle นี้พัดขอเจาะพูดถึง Oia อย่างเดียวนะคะ ส่วน Imerovigli และ Sunset Cruise พัดจะขอยกไปเล่าให้ฟังใน Article ถัดไปค่ะ
Overview
ที่ Santorini จะมีหมู่บ้านหลายหมู่บ้านที่โด่งดังและคนนิยมไปมากที่สุดก็คือ Oia ค่ะ เพราะที่ Oia มีทัศนียภาพที่สวยงามมากบ้านเรือนสีขาวฟ้าลดหลั่นกันลงมาตามแนวเขา มีร้านค้าร้านอาหารและโรงแรมมากที่สุด ที่หมู่บ้านนี้คึกคักมากค่ะ แต่ก็มีความแออัดและพลุกพล่านมากเหมือนกันค่ะ อีก 2 หมู่บ้านที่พัดไปก็คือ Imerovigli และ Firostefani ที่ Imerovigli จะคล้ายกับ Oia มากค่ะในส่วนของทัศนียภาพแต่จะเล็กกว่าและสงบกว่ามาก ๆ ค่ะ ร้านรวงไม่ค่อยเยอะ นักท่องเที่ยวก็น้อยค่ะ ส่วน Firostefani หมู่บ้านสุดท้ายที่พัดไป อยู่ติดกับ Imerovigli เลยค่ะเดินไปนิ๊สสสเดียวก็ถึง หมู่บ้านนี้สวยสู้ 2 หมู่บ้านแรกไม่ได้ค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยวุ่นวายนักและมีร้านอาหารค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ ไปเดินเล่นทานอาหารก็เวิร์คอยู่ค่ะ
พัดเดินทางมาถึงสนามบินของ Santorini เที่ยงพอดีก็ขึ้นรถ Shuttle ของโรงแรมไปยังที่พัก “Elea Resort” โรงแรมนี้อยู่ที่ Oia แต่ไม่ได้อยู่ในเมืองเลยเหมือนโรงแรมส่วนมาก จะออกมาจากตัวเมือง Oia นิดนึงค่ะ เดินจากโรงแรมไป Oia ประมาณ 5 นาทีค่ะ
ที่ “Elea Resort” จะมีสระว่ายน้ำ2 สระ สระแรกจะอยู่บริเวณห้องพัก แบบว่าเปิดประตูออกมาก็เจอ และอีกสระเป็น infinity pool มองเห็นวิวทะเลค่ะ และที่นี่ยังมีห้องอาหารของโรงแรมด้วยสามารถนั่งทานได้ที่ห้องอาหารด้านบนติดกับlobbyหรือโต๊ะริมสระว่ายน้ำก็ได้ทั้ง 2 สระค่ะ อาหารที่โรงแรมนี้พัดว่ารสชาติดีทีเดียว วันแรกพัดสั่งอาหารกลางวันมาทานที่ห้องด้วยเป็นสลัดกับเบอเกอร์อร่อยเลยค่ะ
ส่วนห้องพักก็กว้างขวางแยกส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่น แถมในห้องนั่งเล่นยังมีครัวอีกด้วยค่ะ (พนักงานแอบบอกว่าห้องนี้มีครัวเพราะว่าเป็นห้องที่เวลาเจ้าของรีสอร์ทมาจะมาพักห้องนี้ค่ะเลยทำพิเศษ) เตียงน่านอนมากนอนสบายด้วยค่ะ ด้านหน้าห้องพักก็จะเป็นโต๊ะทานข้าว สระ Jaguzzi เล็กจิ๋ว และ daybed ค่ะ
ในส่วนของอาหารเช้าเค้าจะมาเสิร์ฟที่ห้องค่ะ หน้าห้องจะมีโต๊ะอาหาร เราจะต้องแจ้งกับ front office ทุกวันว่าจะให้มาเสิร์ฟอาหารเวลาไหนค่ะ อาหารเช้าถือว่าดีค่ะ รสชาติโอเคเลยจะมีก็แต่ของหวานแบบกรีซที่หวานแสบคอ แต่ก็เป็นสไตล์ของกรีซเค้าค่ะหวานแบบนี้ทุกที่
หลังจากทานอาหารเช้าแล้วพัดก็ไปเดินเล่นในเมือง หามุมสวย ๆ ถ่ายรูป ที่นี่มุมถ่ายรูปสวยเต็มไปหมดเรียกว่าสามารถหยุดถ่ายรูปได้ทุก 10 วินาทีค่ะ ร้านรวงที่นี่ก็ตกแต่งกันน่ารักเหลือเกินใครชอบถ่ายรูปบอกเลยว่าเพลินสุด ๆ
ที่ Oia นี่ขึ้นชื่อเรื่องพระอาทิตย์ตกมากค่ะ ใคร ๆ ก็มาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่กันเยอะม๊ากกกกกกก (แอบถ่ายรูปหมู่มวลประชนมาให้ดูด้วย) แต่จริง ๆ พัดว่าไม่ได้สวยขนาดนั้นนะคะ พัดชอบที่ Imerovigli มากกว่าเยอะค่ะ แต่ว่าแนะนำว่าใครอยากมาเดินเล่นมาช่วงเวลาเย็น ๆ ก่อนพระอาทิตย์ตกนี่จะดีมากค่ะ แดดไม่ร้อน อากาศเย็นสบาย บรรยากาศดีมากเลยค่ะ
ไปทานอาหาร local กันดีกว่าค่ะที่ร้าน “Melitini” อยู่ที่ Oia นี่เองค่ะ ร้านนี้รีวิวไว้ดีมาก ทั้งวิวดีและอาหารอร่อย ไปแล้วก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ แต่ใครอยากมาแนะนำว่าควรจองล่วงหน้านะคะ เพราะ rooftop มีไม่กี่โต๊ะเองค่ะ วันแรกพัดมาแล้วรอบนึงแต่ไม่ได้จองไว้ อดสิคะ T-T วันนี้จองไว้ก่อนเลยได้โต๊ะวิวดีที่สุดของร้านเลยค่ะ 😀
อาหารที่พัดสั่งก็จะมี spicy dip, pizza bread, anchovy, grilled sausage, grilled octopus อาหารจัดว่าดีงามทุกอย่างค่ะ มีแค่ anchovy ที่พัดไม่ค่อยชอบเท่าไหร่กินเปล่า ๆ แบบนี้รู้สึกหยึ๋ย ๆ
จริง ๆ ร้านนี้พัดแนะนำให้มาทานช่วงเย็นจะดีกว่านะคะเพราะกลางวันแดดร้อนมากค่ะ แสบตาเลยค่ะ ถ้ามาช่วงเย็นจะได้บรรยากาศที่ดีกว่าค่ะ
หลังจากนั้นก็กลับโรงแรมเพราะว่ารถจะมารับเราเพื่อไปขึ้นเรือ Sunset Cruise ที่จองไว้ตอนบ่าย 2 ค่ะ ในส่วนของpackageเรือที่พัดเลือกไว้คือpackage sunset เรือก็จะล่องพาเราชมวิวไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่บ่าย 2 ครึ่งมีแวะให้ลงเล่นน้ำด้วยแต่พัดไม่ได้ลงค่ะ แล้วจอดเรือให้เราทานอาหารเย็นบนเรือแล้วจึงค่อยแล่นเรือไปยังจุดชมพระอาทิตย์ตก กลับขึ้นฝั่งประมาณ 2 ทุ่มค่ะ ขอบอกว่าฟินมาก รีวิวเรือเต็ม ๆ รอ article หน้า Santorini Sunset Cruise นะค้าาาา
วันต่อมาหลัง check-out แล้วก็ย้ายเมืองไปพักที่ Imerovigli การเดินทางพัดก็จอง shuttle service ของรีสอร์ทค่ะ ที่ Imerovigli พัดพักที่โรงแรม “Dream Luxury Suites” จะสวยแค่ไหนตามไปดูที่ Ariticle “Imerovigli, Santorini” นะคะ
Where to Stay
พัดพัก “Elea Resort” โรงแรมนี้อยู่ที่ Oia แต่ไม่ได้อยู่ในเมืองเลยเหมือนโรงแรมส่วนมาก จะออกมาจากตัวเมือง Oia นิดนึงค่ะ เดินจากโรงแรมไป Oia ประมาณ 5-10 นาทีจริง ๆ ใกล้มากค่ะแต่ว่าเป็นทางค่อนข้างชัน เลยเปลืองพลังงานและเมื่อยขาพอสมควร ถ้าจะให้ดีควรจะเช่าพวกรถ ATV จะดีมากเลยค่ะขับปรื้ดเดียวถึงเลย แล้วที่ Oia มีลานจอดรถด้วยค่ะ ข้อดีก็คือโรงแรมนี้สงบ เงียบ เป็นส่วนตัวมาก ๆ และมีพื้นที่กว้างขวางมาก ถ้าเราพักใน Oia เลยจะเป็น Cave house ห้องจะค่อนข้างเล็ก โรงแรมจะไม่ค่อยมีพื้นที่ส่วนกลาง และไม่ค่อยเป็นส่วนตัวนักเพราะบางโรงแรมนักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านได้สบาย ๆ เลยค่ะ น่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยอยู่เหมือนกันค่ะ รวมถึงบางโรงแรมอยู่ลึกต้องเดินขึ้นลงบันได้ค่อนข้างเยอะยิ่งถ้าต้องขนกระเป๋าเดินทางอีกยิ่งไปกันใหญ่ค่ะ แต่ข้อดีของการพักใน Oia ก็คือได้วิวทะเลกับบ้านเมืองสีขาวฟ้าที่ลดหลั่นตามระดับภูเขา ซึ่งสวยมาก ๆ และเป็น location ที่สะดวกสบายมาก ๆ เพราะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่เต็มไปหมดเรียกว่าอยู่ในศูนย์กลางของ Santorini เลยก็ว่าได้ค่ะ อันนี้แล้วแต่ความชอบค่ะ
Transportation
การเดินทางพัดก็จอง shuttle service ของรีสอร์ทค่ะทั้ง airport transfer และจาก Oia ไป Imerovigli เพราะว่าสะดวกแล้วราคาก็ไม่ได้สูงมาก(ประมาณ 30 กว่ายูโรต่อเที่ยว/2คนค่ะ) ที่ Santorini ไม่ได้หา taxi ได้ง่าย ๆ ค่ะเพราะฉะนั้นการเดินทางจะต้องวางแผนล่วงหน้าให้ดีค่ะ
Weather & What to Wear
พัดไปช่วงเดือนกันยายน เป็นเดือนสุดท้ายของ high season ของ Santorini แล้วค่ะ อากาศกำลังสบาย ๆ ค่ะ มีแดดออกทุกวัน แต่เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เข้าหน้าหนาวแล้วก็จะมีฝนปรอย ๆ บ้างนิดหน่อย และ 2 วันสุดท้ายลมแรงมากกกก พัดว่าควรติดเสื้อกันหนาวมาค่ะเพราะช่วงลมแรงอากาศจะหนาวมาก สิ่งจำเป็นมาก ๆ ที่ต้องมีก็คือหมวก แว่นกันแดด และ sunblock ค่ะ เพราะแดดแรงมากจริง ๆ ค่ะ ขนาดทา sunblock แล้วยังสังเกตุได้ว่าสีผิวเปลียนเลยค่ะ พัดผิวแทนมาก ณ จุดนี้
อากาศช่วงนี้ยังสามารถแต่งตัวเหมือนไปชายทะเลปกติได้นะคะ แค่ติดเสื้อกันหนาวมาด้วยเผื่อวันไหนอากาศเปลี่ยนก็พอค่ะ ในส่วนของรองเท้าพัดว่าไม่ได้เดินยากมากยังใส่รองเท้าแตะ flipflop หรือจะใส่ sandals สวยงามตามท้องเรื่องก็ยังไหวค่ะ แต่ใครอยาก hiking หรืออยากเดินได้แบบทะมัดทะแมงคล่องตัวแนะนำว่าใส่ผ้าใบเลยค่ะ เพราะมีทางชันทางลาดและขั้นบันไดพอสมควรนะคะ