Rome

ใครเคยได้ยินประโยคที่ว่า “Rome wasn’t build in a day” กันบ้างคะ ถึงแม้จะเป็นประโยคเปรียบเปรยแต่เราก็อยากเห็นว่าโรมนี่มันยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันเชียว  ว่าแล้วก็แพ็กกระเป๋าไปเที่ยวโรมกันดีกว่าค่ะ

ก่อนหน้านี้มาเที่ยวอีตาลีแล้วก็หลายเมืองแต่ก็ยังรูสึกเฉย ๆ กับโรมเพราะได้ยินแต่คนบ่นว่ามันช่างเป็นเมือง touristy ไม่ค่อยจะประทับใจ  พัดเลยได้แต่แวะขึ้นลงเครื่องเท่านั้น  มารอบนี้เลยอยากจะมาพิสูจน์ด้วยตัวเองให้เห็นกับตาว่ามันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ  แล้วส่วนตัวก็ชอบดูสถาปัตยกรรมโบราณเป็นทุนเดิมอยู่แล้วไหน ๆ จะต้องขึ้นลงเครื่องที่นี่อยู่แล้วเลยขอแวะเที่ยวสัก 3 คืนค่ะ  สำหรับร้านอาหารต่าง ๆ พัดขอยกไปรีวิวแบบเน้น ๆ ใน article ถัดไปนะคะก็คือ “Rome Food Tour” ในโพสต์นี้จะเล่าคร่าว ๆ ค่ะ

Itinerary

day 1  เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ถึงโรมช่วงเช้า เข้าcheck-inโรงแรมแถวVatican   บ่ายทัวร์ Vatican City

day 2  ไปน้ำพุ Trevi, Pantheon, Piazza Navona ย้ายโรงแรมไปพักแถว Colosseum

day 3  ไปชม Colosseum, Arco di Costantino, Foromano, Campidoglio  เย็นไป “Basilica Pontificia di Santa Maria Maggiore”

day 4  shopping day ไปช้อปปิ้งแถวบันไดสเปน และไปขึ้นเครื่องไฟลท์ดึก

 

วันแรกถึงแต่เช้าตรู่ก็เข้าโรงแรม check-in คืนแรกพัดลือกพักโรงแรมแถวVatican City ค่ะเพราะวันนี้เราจะไปเยี่ยมชมVaticanค่ะ   เนื่องจากว่ามาถึงโรงแรมเช้ามากก็เลยยังไม่ได้ห้องค่ะต้องรอถึงบ่าย 2 พัดเลยออกไปเดินเที่ยวเล่นทานอาหารเช้าก่อน  แต่อยู่ ๆ ฝนก็เทโคร้มมมม ตกหนักมากนานมากสรุปว่าติดอยู่ในร้านกาแฟแถว ๆ โรงแรมนั่นแหละค่ะไม่ได้เที่ยวเลยแถมเปียกมะล่อกมะแล่ก  กว่าฝนจะหยุดก็เที่ยงพอดีได้เวลาอาหาร  พัดเลยไปทานPizza ร้านดังอยู่ใกล้กับทางเข้า Vatican ชื่อร้าน”Bonci Pizzarium” ค่ะ เป็นPizza แบบLocal แป้งจะหนากรอบนอกนุ่มใน  มีหน้าให้เลือกเยอะม๊าก อร่อยมาก ๆ ค่ะ

 

ถึงเวลาบ่าย 2 พัดได้จองทัวร์ Vatican City เอาไว้ล่วงหน้าจากแอพ Viator แล้วค่ะ  เพราะถ้าต้องต่อคิวเข้าเองเนี่ยคิวยาวเป็นกิโล ๆ อย่างน้อยคงต้องมี 1-2 ชั่วโมงแน่ ๆ กว่าจะได้เข้า  ซึ่งก็คิดถูกมากเพราะวันนี้ทั้งคิวยาวและฝนตกคนก็ยืนต่อคิวกลางฝนกันไปสิคะ ขนาดบ่ายแล้วยังมีฝนปรอย ๆ อยู่บ้าง การจองก็จองผ่านappได้เลยค่ะ  แล้วเค้าจะนัดเจอเป็นกลุ่มประมาณ 10 กว่าคนที่ใกล้ ๆ ทางเข้า Vatican Museum ก่อนจะเข้าไปพร้อมกันค่ะ  เค้าจะมีหูฟังไว้ให้ฟังไกด์ของเราบรรยายคนละอันค่ะ  ทัวร์ Vatican ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง  เดินต่อเนื่องล้วน ๆ กว่าจะจบบอกเลยว่าเมื่อยมากกก  มันใหญ่มากจริง ๆ อลังการมากนี่ขนาดทัวร์ไม่ได้เดินได้ทั่วเข้าทุกซอกทุกมุมนะ  ถึงโรงแรมเราจะใกล้แต่ขากลับขอใช้บริการแท็กซี่ค่ะหมดแรง  ซึ่ง taxi stop ก็อยู่ด้านหน้าของ Vatican City เลยค่ะหาง่ายมาก (ด้านหน้านะคะไม่ใช่ทางเข้า  จะอยู่คนละฝั่งกันค่ะ)

 

หลังจากกลับไปพักร่างที่โรงแรมแป๊บนึงก็ได้เวลาอาหารเย็นค่ะ  คนที่นี่เค้าทานอาหารกันดึกร้านก็จะเริ่มเปิดตอน 1 ทุ่มบ้าง 2 ทุ่มบ้างค่ะ  ร้านที่จะไปวันนี้อยู่ไม่ไกลอีกเหมือนกันค่ะเดินไปได้สบ๊ายยย  ร้าน “Ristorante L’Arcangelo” เป็นร้านดังของที่นี่เค้าค่ะ  อาหารก็จะเป็น Authentic Italian วันนี้พัดเลือกเป็น Tasting Menu รวมจานเด็ดของร้านมาให้ชิมค่ะ จานที่พัดชอบที่สุดก็คือ Matriciana อร่อยมากฟินลืมมม

 

วันต่อมาก็ต่อด้วยน้ำพุ Trevi ที่พึ่งจะเปิดไม่นานหลังจากปิดซ่อมแซมไปถึง 16 เดือน  โดยมี Fendi เป็นนายทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ถึง 2.2 ล้าน US Dollars ค่ะ  แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนโดยจะต้องให้ Fendi ติดป้ายสลักชื่อแบรนด์ไว้ 4 ปี แถมยังได้มาจัดแฟชั่นโชว์ Haute Couture Fall Winter 2016/17 อีกด้วยเป็น catwalk กระจกใสเดินบนน้ำพุกันเลยทีเดียวเริ่ดมากมาย  น้ำพุเทรวี่เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรกค่ะสวยและยิ่งใหญ่กว่าที่เห็นในรูปเยอะเลย  รู้สึกว่ามีมนต์ขลัง  นึกถึงฉากในหนังเรื่อง When in Rome ที่นางเอกลงไปในสระน้ำพุขึ้นมาเลย

พัดนั่งแทกซี่มาค่ะเพราะอยู่ไกลจากโรงแรมพอควร  มาถึงคนเยอะไปอีกแทบจะหาที่ถ่ายรูปให้ไม่ติดคนไม่ได้เลยค่ะ  แอบกลับมาช่วงเย็นอีกรอบก็คนเยอะเหมือนเดิมต้องทำใจค่ะ  ตรงละแวกน้ำพุ Trevi นี้มีร้าน Gelato ชื่อดังด้วยค่ะ ชื่อร้าน “Valentino Gelateria” พัดเลยแวะซื้อก่อนจะไปต่อ สายของหวานขนาดนี้จะพลาดได้ไง

 

Fendi Haute Couture Fall Winter 2016/17

 

Photo Credit (ตามลำดับรูป)

  1. www.wallpaper.com
  2. Venturelli/WireImage/Getty Images
  3. www.fashionista.com
  4. www.elle.com

 

แล้วเดินต่อไป “Pantheon” อยู่ไม่ไกลมากค่ะเดินสบาย ๆ เดินเรื่อย ๆ ซักพักก็ถึงค่ะ  Pantheon มาจากภาษกรีกแปลว่า “All of god” ค่ะ  วิหารนี้จึงถูกสร้างเพื่อเป็นเทวสถานของเทพต่าง ๆ ของโรมันโบราณ  มีอายุกว่า 2000 ปีแล้วนะคะเก่าแก่มากค่ะ  Pantheon เป็นอาคารทรงกระบอกด้านบนมีรูรับแสงตรงกลางเรียกว่า Oculus ซึ่งหมายถึงตาจากสวรรค์ค่ะ

 

จากนั้นก็เดินต่ออีกไม่ไกลก็ถึง “Piazza Navona” หรือจตุรัสนาโวนานั่นเอง จริง ๆ ที่นี่สมัยก่อนเป็นสนามกีฬาค่ะสร้างตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 1 ค่ะ  หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปพัดก็พักทานอาหารกลางวันตรงนี้เลย  เป็นคาเฟ่ริมทางเดินกลางจตุรัสนี่เลยค่ะวิวดีมากแต่อาหารไม่อร่อยเลย ! แถวนี้จะมีตรอกซอกซอยเยอะบรรยากาศดีมากได้ฟีล local นิด ๆ มีร้านอาหาร คาเฟ่น่ารัก ๆ เยอะมากค่ะ  เหมาะมาเดินเล่นแวะทานอาหารเป็นที่สุด  แต่พัดดันทานอาหารไปแล้วก่อนจะเดินมาเจอแถมที่ทานไปก็ไม่อร่อยเลย  เศร้า!

 

วันต่อมาพัดย้ายโรงแรมไปพักแถว Colosseum ค่ะ  ชื่อโรงแรม “Princeps” location ดีใช้ได้  ห้องพักก็ดีอาหารเช้าก็เวิร์ค  แล้วพนักงานที่นี่บริการดีมากให้คำปรึกษาทุกอย่าง  อัธยาศัยดีมาก  ยิ้มแย้มร่าเริงขอให้ช่วยอะไรไม่มีเกี่ยงงอนหรือทำหน้าเหวี่ยงเลยค่ะ น่ารักมาก ๆ พัดพักที่นี่ 2 คืนค่ะ  แต่รู้สึกว่าราคาแพงกว่าคุณภาพไปหน่อยค่ะ

วันนี้เราไปเที่ยว Colosseum ค่ะเดินไปจากโรงแรมไม่ถึง 1 กิโลเมตรค่ะ  ที่ Colosseum พัดเดินชมแต่ด้านนอกไม่ได้เข้าไปข้างในนะคะ เพราะคนเยอะม๊าก ข้าง ๆ Colosseum เป็นประตูชัย Arco di Costantino และ Foro Romano (Roman Forum) หรือศูนย์รวมความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของโรมค่ะ เหมือนเมืองโบราณ มีซากปรักหักพังทั้งสภาพดีสภาพแย่ปะปนกันไป  สวยงามควรต้องมาค่ะ  เดินไปอีกหน่อยก็คือ Piazza del Campidoglio ตรงนี้สวยมากกกกกแต่พัดเดินไปไม่ถึงค่ะแดดร้อนมาก ๆ เลยได้แต่นั่งรถผ่านไปมาอดเสียดายไม่ได้ที่ไม่ได้ลงไปเดินดู

Colosseum เป็นสนามกีฬาสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโรมันแต่มาสร้างเสร็จคริสต์ศตวรรษที่ 1 ค่ะ  จุคนได้ถึง 50,000 คนถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในยุคต่อ ๆ มาเลยค่ะ  นับว่าเป็นสนามกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น  แต่ในสมัยก่อนกีฬาของเค้าก็จะเป็นการต่อสู้ของคน และคนกับสัตว์อย่างที่เราเห็นในหนัง Gladiator ค่ะ  เหล่านักสู้พวกนี้ก็คือทาส  ซึ่งทาสพวกนี้จะถูกนายทาสเลี้ยงดูและฝึกฝนการต่อสู้มาโดยเฉพาะค่ะ  จากบันทึกทางประวัติศาสตร์การต่อสู้นี้เป็นในเชิงการแสดงเพื่อความสนุกเพลิดเพลินของผู้ชมมากกว่าการสังหารให้ตายอย่างที่เข้าใจกันค่ะ   แล้วว่ากันว่าในสมัยนั้นColosseumมีระบบกันแดดกันฝนซึ่งจะให้ทาสดึงหลังคาผ้าใบออกมาได้ด้วยค่ะ

 

จากนั้นพัดก็หนีไปบันไดสเปนแทนค่ะเพราะทนร้อนไม่ไหวแล้ว  ตรงบันไดสเปนถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งทั้ง hi-end และ hi-street brand ที่ดีมากค่ะ  ร้านเยอะแยะมากมายแต่พัดไม่มีรูปบันไดสเปนเลยเพราะคนเยอะมากที่สุดของที่สุดค่ะ  เลยได้แต่เดินดูแล้วก็เดินช้อปปิ้งต่อค่ะ

แล้วก็ไปทานอาหารกลางวันที่ “Tartufi & Friends” ค่ะอยู่ใกล้บันไดเสปนมาก ๆ  ร้านนี้โด่งดังในหมู่คนไทยพอควรเพราะเป็นร้านแฟรนไชส์ มีอยู่หลายประเทศค่ะ ทั้งที่ London, Dubai, Milan, Frankfurt  ตามชื่อค่ะเค้าดังเรื่อง Tartufi หรือเห็ด Truffle นั่นเอง  เมนูทุกเมนูจะมีทรัฟเฟิลเป็นส่วนประกอบ  อย่างที่เคยบอกไปว่าพัดเป็น truffle lover เลยพลาดร้านนี้ไม่ได้ค่ะ  ทุกเมนูจะเลือกได้ค่ะว่าจะรับเป็น black truffle หรือ white truffle ซึ่งถ้าเป็น white truffle ราคาจะสูงกว่าเกือบ 2 เท่าค่ะ  ร้านนี้อยู่ใจกลางแหล่งช้อปปิ้งเลยค่ะดีงามทานเสร็จก็ช้อปต่อเบา ๆ

 

วันนี้แดดร้อนมากค่ะพลังหมดเลยไปได้ที่เดียวแล้วกลับมาพักที่โรงแรม  พอตกเย็นเลยออกมาเดินเล่นที่ “Basilica Pontificia di Santa Maria Maggiore” เพราะอยู่หน้าโรงแรมเลยค่ะ  สวยงามเลยขอมาถ่ายรูปซะหน่อย

 

วันสุดท้ายของพัดเป็น Shopping Day ค่ะ  ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเดินเล่นช้อปปิ้งอย่างเดียวค่ะ  ร้านที่โรมก็เยอะใช้ได้อยู่ใครชอบช้อปปิ้งน่าจะhappyค่ะ  ในส่วนของมื้อกลางวันวันนี้พัดจองร้านที่ได้ Michelin ไว้คือร้าน “Ristorante Guida Ballerino” ร้านสวย วิวดี อาหารหน้าตาดูดี  แต่บอกเลยรสชาติเฉย ๆ ไม่ปลาบปลื้ม ไม่แนะนำ

 

Transportation

พัดจอง Airport Transfer  ไว้กับ 2 บริษัทค่ะเพราะว่าอยากลองว่าแต่ละบริษัทเป็นยังไง แตกต่างกันตรงไหนบ้าง ก็คือ www.romalimousinecarservice.com กับ www.rome-chauffeur.com ค่ะ  ทั้ง 2 บริษัทไม่รับบัตรเครดิตนะคะต้องจ่ายเงินสดกับพนักงานขับรถวันที่ใช้บริการเท่านั้นค่ะ  วันกลับอย่าเผลอช้อปปิ้งจนเงินหมดนะคะต้องเผื่อเอาไว้จ่ายค่ารถค่ะ  พัดเดนทางเข้า-ออกโรม 2 รอบเลยได้ใช้บริการทั้งหมด 4 ขาค่ะ  บริษัทแรกวันที่ถึงสนามบินพนักงานมาสายค่ะ  ยืนรออยู่ที่arrival hall อยู่นานก็ไม่เจอจนต้องโทรไปที่บริษัทค่ะ  ส่วนวันกลับก็เป็นคนเดิมนี่แหละค่ะมารับคราวนี้ตรงเวลาดีแต่ว่าทำเนียนค่ะไม่ยอมทอนค่ารถอีก 10 ยูโรจนต้องทวง  จากว่าจะให้ทิปเลยไม่ให้เลย  ส่วนบริษัทที่ 2 คือดีมากค่ะมาตรงเวลาทั้งขาไปขากลับแต่ทั้ง 2 ขาเป็นคนขับคนละคนกันค่ะคนขับรถก็สุภาพ  ทั้ง 2 บริษัทรถสะอาดดีค่ะ  พนักงานช่วยยกกระเป๋าเดินทางตลอด แต่รถที่จองได้เป็นรถ Benz E-Class รุ่นเก่าค่ะ

 

Where to Stay

ปกติพัดจะชอบจองที่พักที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวหรือในตัวเมืองเพื่อความสะดวกและง่ายต่อการเดินทางค่ะ  ครั้งนี้พัดพัก 2 ที่คือตรง Vatican เพื่อเที่ยววาติกันโดยเฉพาะ 1 คืนอยู่ในระยะเดินไปได้สบาย ๆ และตรง “Basilica Pontificia di Santa Maria Maggiore” เพราะใกล้กับ Colosseum มาก  พัดชอบ location ทั้ง 2 แห่งนะคะ แต่คิดว่าตรงแหล่งช้อปปิ้งแถวบันไดสเปนเป็นอีก location ที่ดีมาก ๆ ค่ะ  ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ช้อปปิ้งสะดวก  ร้านอาหารก็เยอะพัดชอบตรงนี้มากกว่าค่ะแต่ราคาก็จะสูงกว่าอีก 2 location ที่พัดพักนะคะ  รู้สึกพลาดนิดหน่อยที่ไม่ได้มองแถวนี้ไว้เลย

 

Where to Eat

พัดรวบรวมร้านอาหารที่โรมที่พัดได้ไปมาเขียนไว้อย่างละเอียดที่ article “Rome Food Tour” นะคะ  กดลิ้งไปดูได้เลยค่ะ  นอกจากนั้นแถว Piazza Navona เป็นอีกที่ที่พัดรู้สึกว่าน่ามาเดินเล่นหาร้านอาหารทานมาก ๆ มีร้านอาหารเยอะมาก  บรรยากาศดีได้ฟีล local ค่ะ  เป็นตรอกซอกซอยมีร้านอาหารคาเฟ่ตลอดทาง  ลองมาเดินดูกันนะคะ

 

What to Wear

พัดไปช่วงปลายเดือนกันยายนค่ะอากาศร้อน  แดดเปรี้ยง  ควรต้องพกหมวกและแว่นกันแดดมาด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ  โดยเฉพาะวันที่ไปเที่ยว Colosseumไม่มีที่ร่มเลยค่ะเดินกลางแจ้งอย่างเดียว  กลางคืนอากาศเย็นเล็กน้อยถ้าขี้หนาวก็พกเสื้อคลุมบาง ๆ มาหน่อยก็ดีค่ะ  วันแรกที่พัดมาเจอฝนตกด้วยตกกระหน่ำตกทั้งวันพกร่มมาเผื่อก็ดีนะคะ  แต่ใครลืมเอามาด้วยไม่ต้องกลัวไปค่ะ  ที่นี่เป็นอะไรที่ amazing มากเรากำลังต้องการอะไรสิ่งนั้นจะเดินมาหาเราเองค่ะ555  นี่พูดจริงนะไม่ได้มีไสยศาตร์อะไร  จะมีแขกเดินมาขายค่ะ   อยากได้ร่มร่มก็มา  เดิน ๆ อยู่คอแห้งน้ำก็มา  อยากถ่ายรูปคู่มนุษย์แขกคนเดิมก็โผล่มาขายไม้เซลฟี่  เฮ้ยเมื่อเช้ายังขายร่มอยู่เลยงงมากค่ะ  ค้าขายกันเก่งมากค่ะนับถือ

 

Tips

สำหรับใครที่มาช้อปปิ้งยุโรปขาดไม่ได้เลยก็คือทำ tax refund ที่สนามบินก่อนกลับใช่มั้ยคะ  ขอเตือนว่าที่โรมเนี่ยเค้าไม่ได้ professional เหมือนที่มิลานเพราะฉะนั้นพนักงานที่นี่ก็จะไม่คล่อง  คนในสนามบินก็จะมึน ๆ กันหน่อยเวลาไปสอบถามเรื่องนี้  ทำเอาพัดวิ่งไปวิ่งมาอยู่หลายรอบกว่าจะเรียบร้อยกระบวนการ tax refund ค่ะ  แนะนำว่าเป็นไปได้ขอเป็นเงินสดให้หมดนะคะ  พัดเองกลับมาได้เงินคืนบัตรเครดิตไม่ครบทุกยอดค่ะ  เศร้ามากกกกก

 

 

 

 

 

 

You may also like