ยอมรับเลยว่าก่อนหน้านี้มาเก๊าเนี่ยเป็นที่ ๆ พัดแทบไม่เคยอยากไปเพราะรู้สึกว่าไม่เห็นมีอะไรเลยมีแต่สถาปัตยกรรมปลอม ๆ ที่สร้างเลียนแบบยุโรป นึกถึงมาเก๊าพัดคิดออกแค่ Venetian, Casino, ทาร์ทไข่ แค่นี้เลยค่ะ555 จนกระทั่งตกปากรับคำคนใกล้ตัวว่ารอบนี้จะยอมไปด้วยเลยได้เริ่มเสิชจริงจังว่ามาเก๊ามีอะไรบ้างน้ออออ เออจริง ๆ เค้าก็มีเมืองเก่าน่ารัก ๆ สไตล์ Chino Portuguese เพราะเคยเป็นเมืองขึ้นโปรตุเกสค่ะ แล้วยังมีร้านอาหารอร่อย ๆ เยอะทีเดียว ว่าแล้วก็ไปดูกันค่ะ
ทริปนี้พัดพักที่โรงแรม Four Seasons Macau ค่ะ ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะว่าสงบไม่วุ่นวายต่างจากโรงแรมใหญ่ ๆ อย่าง Venetian หรือว่า Galaxy มาก ๆ ที่มีหลายโรงแรมในตึกเดียวแล้วคนก็เยอะม๊ากกกกกก พัดจะมีความโรคจิตในตัวเองนิดนึงคือไม่สามารถอยู่ในที่คนเยอะพลุกพล่านวุ่นวายได้นานจะเวียนหัวหงุดหงิดซึ่งถือว่าคิดถูกมาก ๆ ค่ะที่เลือกโรงแรมนี้เพราะเงียบมากทั้งส่วนที่เป็นโรงแรมและส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้า ไม่มีทัวร์จีนพลุกพล่านให้ปวดหัวเลยค่ะ แล้วโรงแรมนี้ก็อยู่ติดกับ Venetian และ Parisian เดินไปนิดเดียวก็ถึงค่ะ
ห้องพักก็กว้างขวาง ข้าวของเครื่องใช้ก็ครบครันตามมาตรฐานเค้านั่นแหละค่ะ ที่พัดประทับใจสุด ๆ คือเตียงนอนสบายม๊ากกก พัดนี่อยากยกกลับไปไว้ที่บ้านด้วยเลย และเค้าก็มี pillow menu ให้ด้วยนะคะถ้าใครไม่ชอบหมอนที่เตรียมใว้ให้ค่ะ
ที่โรงแรม Four Seasons Macau บริการดีมากกกกกก ก. ไก่ล้านตัวจริง ๆ พนักงานทุกคนดูแลเราอย่างดีคอยช่วยเหลือทุกอย่าง ทำลิสต์รายการร้านอาหารที่แนะนำมาให้ โทรจองร้านให้ตลอดแถมจำได้ด้วยว่าวันนี้เราจะไปไหนบ้างเอาสิ ยืนรอแท็กซี่ที่ Taxi Stand นานก็โทรเรียกให้เลย ที่ประทับจิตประทับใจอีกอย่างคือวันกลับพัดรอแท็กซี่สักพักก็ไม่มีมาเลย ทางโรงแรมเค้าเลยจัดรถไปส่งให้ที่สนามบินเลยฟรีไม่คิดตัง ปกติทางโรงแรมเค้าจะมีแต่รถ shuttle(เป็นรถ MPV ค่ะ) รับส่งที่ท่าเรือ ferry ไม่มีไปส่งสนามบินแต่เค้าคงกลัวเราจะตกเครื่องค่ะเลยจัดให้เป็นพิเศษ เลิฟเลยจุดนี้
สำหรับทริปนี้พัดขอเขียนแยกเป็น area แทนที่จะเป็นวันเหมือนทุกทีนะคะจะได้เข้าใจง่ายว่าแถวไหนมีอะไรบ้าง ที่มาเก๊าจะมี 2 ฝั่งฝั่ง Macau และฝั่ง Taipa ซึ่งมีน้ำทะเลคั่นต้องข้ามสะพานถึงกันค่ะฝั่ง Taipa จะมีสนามบินและเป็นฝั่งที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมที่พัดพักค่ะ
Macau
เริ่มจาก Tourist Attraction อย่าง Senado Square แถวนี้เป็นย่านเมืองเก่าตึกรามบ้านช่องเค้าจะเป็นแบบ Chino Portuguese สีพาสเทลน่ารักมาก ๆ พัดชอบย่านนี้ที่สุดค่ะ เดินเข้าไปด้านในก็จะเจอกับ The Ruins of St. Paul’s (หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Sam Ba Sing Tzik) St. Paul’s Church แห่งนี้เคยเป็นโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกและเคยถูกไฟไหม้ไปทั้งหมด 3 รอบและถูกพายุไต้ฝุ่นเลยเหลืออยู่แค่นี้ค่ะ
พัดแวะทานอาหารกลางวันแถวนี้ด้วยอยู่ตรงแสควร์เลยค่ะชื่อร้าน “Yea Yea Noodle” หน้าร้านเขียนแบบนี้แต่ที่โต๊ะเขียนว่า “Wong Chi Kei” เลยไม่รู้ว่าชื่อไหนกันแน่ งงค่ะ555 ร้านนี้เค้าจะดังบะหมี่เกี๊ยว บะหมี่หมูตุ๋น แล้วก็พวกโจ๊กค่ะ พัดทานโจ๊กเป็ดย่างกับหมูก้อนรสชาติดีทีเดียว ส่วนเกี๊ยวเค้าผสมกุ้งพัดเลยอดแต่คนที่มาด้วยคอนเฟิร์มว่าอร่อยค่ะ แนะนำว่ามาก่อนเที่ยงนะคะจะไม่ต้องรอคิวค่ะ
จากนั้นบ่าย ๆ พัดก็ไปทานขนมทาร์ตไข่อยู่ใกล้ ๆ Senado Square นี่เองร้านดู local มากมีแต่ภาษาจีนล้วน ๆ ชื่อร้าน “壹燕糖 “ ร้านนี้พัดตาม blogger สายกินชาวฮ่องกงมาอีกทีค่ะคิดว่าร้าน Lord Stow’s เจ้าดังใคร ๆ ก็คงรู้จักอยู่แล้วเลยอยากมาลองร้านใหม่ ๆ บ้างค่ะ ร้านนี้ทาร์ทไข่เค้าจะมีแป้ง 2 แบบค่ะ แบบแป้งพายกรอบ ๆ เหมือน Lord Stow’s หรือร้าน Kanom และ KFC บ้านเรา ร้านนี้ไส้จะไม่หวานมาก อร่อยทานแล้วไม่เลี่ยนค่ะ ส่วนอีกแบบเป็นแป้งพายเหมือนทาร์ทไข่ที่ทานกันตามร้านติ่มซำค่ะ ความพิเศษของทาร์ทร้านนี้คือเค้าจะใส่รังนกด้านบนด้วยค่ะ ปกติพัดไม่ชอบทานรังนกเอาซะเลยเพราะรู้สึกว่าเหม็นคาวแต่ที่ร้านนี้ไม่มีกลิ่นเลยนะคะ และขนมอีกอย่างที่พัดสั่งไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีเป็นสาคูและฟรุ๊ตสลัดในน้ำมะม่วงและมีไอศครีมมะม่วงใส่มาด้านบนอีกที จานนี้ก็จะสดชื่น ๆ หน่อยอร่อยดีค่ะ
อีกเมนูดังของร้านนี้ก็คือบะหมี่เป่าฮื้อค่ะหน้าตาดีมาก เสียดายมากไม่ได้ลองเพราะตอนนี้อิ่มจนพุงจะแตกแล้ววว
เขยิบมาไม่ไกลมากจาก Senado Square แถว ๆ Lisboa Casino มีร้านเป็ดย่างเจ้าดัง “Chan Kuong Kei Casa De Pasto” ร้านนี้ขอบอกว่าเด็ดจริงไรจริง พัดมาตอนเที่ยงพอดีคนเยอะม๊าก ต้องรอคิวกันซักพักกว่าจะได้โต๊ะ แถมได้ผู้ร่วมโต๊ะสาวชาวจีนอีก 2 คนที่ไม่มีใครรู้จักกันเลย แต่ทั้ง 2 คนก็น่ารักนะมียื่นทิชชู่ส่วนตัวแบ่งมาให้ด้วยทั้ง ๆ ที่พูดภาษาอังกฤษก็ไม่ได้แอบประทับใจคนจีนที่นี่เลยค่ะ
สำหรับอาหารที่เริ่ดสุด ๆ อร่อยมาก ๆ ยกให้ “เป็ดย่าง” ของเค้าค่ะซึ่งซอสเค้าไม่เหมือนเป็ดย่างทั่ว ๆ ไปที่พัดเคยทาน ซอสจะผสมพริกไทยดำด้วยค่ะทั้งหอมและอร่อยมาก อีกอย่างที่สั่งก็คือหมูกรอบ เป็นหมูกรอบที่อ้วนมากเพราะแทบไม่มีเนื้อเลยมีแต่มัน จานนี้พัดว่าเค็มไปหน่อย ส่วนผักนึ่งเค้าก็โอเคเลยค่ะ สามารถสั่งเป็นบะหมี่ก็ได้หรือราดข้าวสวยก็ได้ค่ะ หรือใครอยากจะสั่งแยกเป็นจานก็ได้อีกเหมือนกันค่ะ
ใกล้ ๆ กันที่ตึก AIA มี Roof Top Bar วิวดีงามอยู่ค่ะชื่อ “Sky 21” ร้านนี้รีวิวดีสุดละแถม concierge โรงแรมก็คอนเฟิร์มว่าร้านนี้ดีสุดในมาเก๊า จุดเด่นเลยพัดว่าคือมองเห็นตึก Lisboa Casino ที่สูงตระหง่านเปิดไฟวิบวับตลอด แต่พัดว่าสู้ rooftop bar ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เลยค่ะทั้งบรรยากาศและการตกแต่ง เพราะถ้าไม่ลุกขึ้นยืนที่ริมระเบียงก็จะมองไม่เห็นวิวด้านล่างเลย แต่ส่วนที่เป็นร้านอาหารด้านล่างจะวิวสวยกว่าค่ะเพราะเป็นกระจกรอบด้านค่ะ
ส่วนเครื่องดื่มเค้าก็โอเคอยู่นะคะ พัดสั่งค็อกเทล Kwai Feh ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากสาวงามสนมหยางกุ้ยเฟย ที่ชอบทานลิ้นจี่มากเลยเป็นเครื่องดื่มที่ผสม Gin, น้ำลิ้นจี่ และใส่ลิ้นจี่มาด้วย 1 ลูกแก้วนี้ดีอยู่นะ แล้วพัดก็สั่งอีกแก้วเป็น Angel จะออกเปรี้ยว ๆ กว่ามีความผลไม้มากกว่าค่ะ
Cotai
ข้ามมาที่ฝั่งของโรงแรมของเรากันบ้างค่ะที่ย่าน Cotai นี้ก็จะมี Venetian, Galaxy, Parisian, City of Dream พัดก็เดินเล่นวน ๆ ไป ก็จะมีห้างสรรพสินค้า ช็อปแบรนด์เนมเยอะมากทุกที่ เรียกว่ามีทุกแบรนด์เลยดีกว่าค่ะ ถ้าใครไม่ชอบคนเยอะ ๆ แนะนำว่าเดินช็อปปิ้งที่ Four Seasons Hotel และที่ Galaxy จะโอเคกว่าค่ะร้านก็เยอะไม่แพ้กัน
มาพักทานขนมกันบ้างที่ Galaxy ตรงโซน The Promanade มีร้านขนมน่ารักฟรุ้งฟริ๊งที่พัดชอบมาก “Cha Bei” เหมาะจะมานั่งจิบชากับเพื่อนสาวยิ่งนัก ร้านนี้ไม่ได้มีแต่ขนมนะคะมีเมนูอาหารด้วยค่ะ จริง ๆ พัดตั้งใจจะมาทาน afternoon tea set ของเค้าเพราะมันน่ารักมากแต่พัดมาเร็วไปหน่อยค่ะ เค้าจะเริ่มเสิร์ฟตอนบ่าย 3 พัดเลยได้แต่สั่งขนมในเมนูและกาแฟค่ะ ขนมทุกจานรสชาติดีมากบริการก็ดีมาก ๆ เช่นกันแนะนำเลยค่ะร้านนี้
สำหรับที่ต่อมาถ้าไม่มาก็เหมือนมาไม่ถึงมาเก๊าก็คือ “The Venetian” นั่นเองที่นี่ใหญ่มากแบบเดินทั้งวันก็ไม่ทั่ว ด้านในเค้าก็จะจำลองเมือง Venice มามีคลองตรงกลางและมีเรือกอนโดลาให้ล่องไปตามคลองค่ะ ร้านค้าก็จะมีตั้งแต่แบรนด์ทั่ว ๆ ไป high street brand ไปจนถึง hi-end ค่ะ ที่นี่คนก็จะเยอะหน่อย ยิ่งโซนที่เป็น casino นี่คนเยอะมากแบบไม่ไหวแล้วเห็นแล้วจะเป็นลม
ในส่วนของอาหารนี่เลยค่ะต้องมาทานติ่มซำที่โรงแรมที่พัดพักนี่เอง ร้าน “Zi Yat Heen” ในโรงแรม Four Seasons เค้าได้ Michelin Star 1 ดาวด้วยค่ะ ในส่วนของบริการนี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมได้ดาว พนักงานคือดีมาก ผ้าร้อนก็เปลี่ยนใหม่ให้ตลอดเวลาพัดว่ากว่าจะทานเสร็จเปลี่ยนไปแล้ว 4-5 ผืน กำลังคิดในใจว่าจะถามพนักงานว่าลืมผักที่สั่งรึป่าวเค้าก็เดินมาพร้อมบอกว่าผักกำลังมานะคะรออีกแป็บเดียวยิ่งกว่ารู้ใจ ที่น่ารักอีกอย่างคืออาหารส่วนมากแต่ละportionจะมี 3 ชิ้นแต่เค้าสามารถทำแค่ 2 ชิ้นตามจำนวนผู้ทานให้ได้ด้วยค่ะโดยคิดราคา 2 ชิ้น เพื่อที่เราจะได้ลองอาหารได้หลาย ๆ อย่างค่ะ
ในส่วนของอาหารที่พัดปลื้มที่สุดของที่สุดก็คือ “Bake Whole Abalone Puff with Diced Chicken” มันอร่อยมากจริง ๆ เลยเบิ้ลกันไปคนละ 2 ปกติไม่ใช่คนชอบเป่าฮื้ออะไรขนาดนั้นแต่จานนี้ให้คะแนนเต็ม จานต่อมาที่ประทับใจคือ“หมูหัน” เค้าจะทำมาเป็นคำเล็ก ๆ พอดีคำค่ะ อันนี้กลมกล่อมดีงามมาก และอีกจานที่พัดชอบก็คือ“ซาลาเปาไส้หมูแดง”
ส่วนอย่างอื่นที่พัดสั่งก็มี Steamed Fresh Mushroom Dumplings with Black Truffle จานนี้หอมกรุ่นแต่รสชาติเฉย ๆ ค่ะ และที่ไม่ปลื้มเลยคือ Grilled Goose อันนี้ไม่อร่อยถ้ามาอย่าสั่งนะคะ ส่วนจานสุดท้ายดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาก็คือผักนึ่ง ปกติเนี่ยพัดจะเซ็งกับผักร้านอาหารจีนมากไม่รู้จะหั่นให้มันพอดีคำไม่ได้หรือยังไงต้องมาชิ้นโต ๆ แล้วพอกัดก็กัดไม่ขาดอีกคาอยู่ที่ปากกับตะเดียบดูไม่งามเอาซะเลย แต่เดี๋ยวก่อนที่ร้านนี้ถึงแม้พัดจะผงะกับขนาดของผักคิดในใจว่าเอาอีกแล้วหรอ! แต่พอกัดไปเท่านั้นแหละมันนุ่มกรอบกำลังดี ไม่ต้องใช้ความพยายามในการกัดยื้อยุดฉุดกระชากใด ๆ พูดได้คำเดียวว่าดีงาม
ระหว่างพักอยู่ที่นี่ที่บาร์ของโรงแรม “Bar Azul“เค้ามีเชิญบาร์เทนเดอร์ชื่อดัง Marco Corallo และ Lorenzo Antonori มาทำเครื่องดื่มที่นี่พอดีค่ะ พัดเลยไปจิบค็อกเทลซะหน่อย เครื่องดื่มรสชาติมีความแปลกใหม่ไม่จำเจ ส่วนบาร์เทนเดอร์ทั้ง 2 คนก็น่ารักอัธยาศัยดีมากค่ะ ปกติ Marco Corallo อยู่ที่ Hendricks Bar @ Four Seasons Dubai ส่วน Lorenzo Antonori อยู่ที่ Charles H. @ Four Seasons Seoul ค่ะ
Taipa
เรามาต่อกันที่ย่าน “Taipa” กันบ้างค่ะ แถวนี้ก็จะเป็นตรอกซอกซอยเล็ก ๆ มีร้านค้าร้านของฝากขายเต็มไปหมด มีร้านทาร์ทไข่ Lord Stow’s ด้วยค่ะ
แต่จุดมุ่งหมายของพัดวันนี้คือจะมาทาน “Pork Chop Bun” อาหารพื้นเมืองชื่อดังของมาเก๊าค่ะ ร้านเก่าแก่ชื่อดังของเค้าก็ร้านนี้เลยค่ะ “大利來記 Tai Lei Kei Macau 1968” เป็นร้านเล็ก ๆ ไม่มีที่นั่งแต่มีโต๊ะบาร์ให้ยืนทานค่ะ ส่วนตัวพัดว่าเนื้อหมูด้านในนุ่มหอมอร่อยค่ะแต่พัดไม่ค่อยชอบแป้งขนมปังของเค้าเท่าไหร่รู้สึกว่าแข็ง ๆ ไปหน่อย
มาถึงมาเก๊าแล้วเราก็ต้องมาลองอาหารโปรตุเกสกันซะหน่อยค่ะที่ “Cafe Litoral” ร้านนี้พัดชอบมากอาหารที่สั่งมาอร่อยทุกอย่างปลื้มทั้งเนื้อshort ribs ทั้งซุปหอยลาย ส่วนปลาซาร์ดีนย่างก็อร่อยย่างมาดีมากแต่ก้างเยอะเว่อร์
ร้านอาหารอีกร้านที่ดีงามก็คือร้าน “Hip Seng Seafood Hotpot” ที่ไม่ได้มีแต่อาหารทะเลสด ๆ เท่านั้น ยังมีเนื้อวัว เนื้อแกะด้วยค่ะ สามารถเลือกน้ำซุป 2 แบบในหม้อเดียวได้พัดชอบทั้ง 2 แบบเลยค่ะ น้ำจิ้มก็รสชาติจัดจ้านอยู่ถูกปากคนไทยเราแน่ ๆ ค่ะ ร้านนี้บริการดีมาก ๆ ประทับใจค่ะ
สำหรับการมาเที่ยวมาเก๊าครั้งนี้ก็ถือว่าประทับใจอยู่นะ อาหารอร่อย เนื่องจากเป็นคนประเภทเรื่องกินเรื่องใหญ่ค่ะ555 การบริการที่โรงแรมห้าดาวและร้านอาหารคือดีมาก ๆ ถึงพัดจะไม่ค่อยอินกับการสร้างทุกอย่างเลียนแบบยุโรปของที่นี่เท่าไหร่แต่ก็ประทับใจที่เค้าทำได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างจริง ๆ ยอมใจเค้าเลย แล้วเค้าก็มีเมืองเก่ามีสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมให้ดูอยู่เหมือนกันค่ะ
Transportation
สำหรับการเดินทางพัดบินตรงจากกรุงเทพฯ มาลงมาเก๊าเลย จากสนามบินมาที่โรงแรมพัดก็ใกล้มาก ๆ ค่ะแค่ 10 นาทีก็ถึง จะนั่งแท็กซี่มาก็ได้หรือขึ้นรถ Shuttle Bus ที่เกือบทุกโรงแรมจะมีมารับที่สนามบิน แต่โรงแรม Four Seasons ที่พัดพักมี shuttle รับส่งแค่จากท่าเรือเฟอรรี่ค่ะพัดเลยนั่งรถ shuttle bus ของ Venetian แล้วเดินต่อมาที่โรงแรมส่วนขากลับพัดนั่งรถ Shuttle ของโรงแรมที่offerให้เป็นพิเศษไปส่งสนามบินค่ะ
ส่วนการเดินทางระหว่างที่อยู่ที่นี่พัดใช้แท็กซี่เป็นหลักค่ะเพราะว่ารถไม่ติดแล้วแต่ละที่ก็ไม่ไกลกันมาก แต่ถ้าอยู่ในละแวกเดียวกันพัดก็เดินเอาค่ะ ช่วงเย็น ๆ rush hour และดึก ๆ แท็กซี่จะหายากหน่อยค่ะแต่ช่วงเวลาอื่นถือว่าสะดวกทีเดียว แท็กซี่นิสัยไม่ดีที่นี่ก็มีเหมือนกันนะคะที่ขึ้นแล้วไม่ยอมเปิดมิเตอร์พอเราไม่พอใจก็ไล่ลงจากรถซะงั้น