หลายคนอาจจะได้เห็นมินิรีวิวของพัดไปแล้วใน Instagram @PATSAMON แต่ถ้าอยากรู้จัก Diorskin Forever Undercover มากขึ้นต้องมาอ่านต่อกันที่บล็อกนี่แหละค่ะ เพราะหลังจากพัดได้ไปงานเปิดตัวรองพื้นรุ่นนี้ไปแล้วก็ได้กลับมาลองใช้ดูจริง ๆ จัง ๆ จะได้เล่าให้ฟังกันได้ถูกว่ามันดีจริงมั้ย ใช้แล้วเหมือนกับที่เค้าโฆษณาไว้รึปล่าว มาดูกันค่ะ
รองพื้นตัวนี้จะเป็นเนื้อลิขวิดค่ะแต่เนื้อก็ไม่ได้เหลวมาก ก่อนใช้ต้องเขย่าขวดก่อนให้ส่วนผสมเข้ากันดีก่อนนะคะ จะใช้นิ้วมือหรือแปรงทาก็ได้พัดได้ลองมาแล้วทั้ง 2 แบบผลลัพท์พัดว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่ค่ะ ใช้ง่ายมาก ๆ คือไม่ต้องมีสกิลก็ทาแล้วเนียนเพระฉะนั้นมือใหม่ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ
ในส่วนของผลลัพท์ตัวนี้ปกปิดได้ดีมาก พัดว่าเป็น medium-full coverage ค่ะแล้วก็ยัง buildable ปิดรอยสิวรอยใต้คล้ำที่ไม่เข้มมากได้ดีจนไม่ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์เลยก็ได้ตรงนี้ค่อนข้างประทับใจ แต่ถึงจะปกปิดได้ดีแต่ไม่รู้สึกหนักหน้าค่อนข้างเบาสบายผิว แต่แน่นอนว่าก็ไม่ได้เบาเท่าพวกcushionอะไรแบบนั้นค่ะ และตัวนี้เป็นเนื้อแมทท์สนิทพัดทาแล้วไม่ต้องเซ็ตแป้งเลย แต่ถึงจะแมทท์แต่ไม่ได้แห้งมากคือทาแล้วไม่ได้ดูเหมือนโบกรองพื้นมาอย่างหนาค่ะ
จริง ๆ เค้าเคลมว่าทนเหงื่อ ทนน้ำ ติดทน 24 ชั่วโมง แต่สำหรับพัดส่วนตัวพัดว่าไม่ได้ติดทน พัดลองทาแล้วออกไปทำนู่นนี่เหงื่ออกหน้ามันผ่านไป 6 ชั่วโมงกลับมาเช็คก็หลุดบ้างเป็นคราบบ้างเหมือนกันโดยเฉพาะทีโซนค่ะ อันนี้ต้องไปลองกันเองนะคะแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันค่ะ
อีกสิ่งนึงที่พัดชอบก็คือพัดว่าเป็นรองพื้นอีกตัวที่เหมาะกับการเดินทางมากค่ะเพราะแพกเกจเค้าเป็นพลาสติก เบา ขนาดกะทัดรัด ไม่ต้องกลัวแตกเลอะเทอะกระเป๋าเดินทางให้เสียอารมณ์ ทริปไหนอยากหน้าแน่นเนียนกริ๊บพัดพกไปด้วยแน่นอนค่ะ
นอกจากนี้ Dior เค้ายังออกตลับคุชชั่นแบบ limited edition มากวาดเงินในกระเป๋าด้วยค่ะงานนี้ เป็นตลับบุหนังเย็บลาย canage สวย หรู ดูดีมีชาติตระกูลที่สุด มีความ Lady Dior มากค่ะ สาว ๆ รีบพุ่งตัวโดยด่วนก่อนของจะหมดนะคะ
สำหรับใครที่สนใจ Diorskin Forever Undercover ไปลองกันได้ที่เคาเตอร์ Dior นะคะมีวางขายแล้วค่ะ ที่ไทยมีทั้งหมด 9 เฉดสีราคา 2,150 บาทค่ะ