Shiki Shima เป็นรถไฟ Luxury Cruise Train ขบวนใหม่ที่สุดของญี่ปุ่นค่ะ แต่ที่พิเศษไม่ใช่แค่นี้ค่ะเพราะตั้งแต่เปิดทำการมาหนึ่งปีรถไฟนี้ให้บริการเฉพาะคนญี่ปุ่นเท่านั้นไม่เปิดรับลูกค้าชาวต่างชาติเลยค่ะ ซึ่งเราได้รับสิทธิพิเศษสุดที่รถไฟ Shiki Shima มอบให้กับ World Surprise Travel เราจะได้เป็นคนไทยและชาวต่างชาติกลุ่มแรกของโลกที่ได้ขึ้นรถไฟขบวนนี้กันค่ะ
สำหรับทัวร์ครั้งนี้เป็นทัวร์เบา ๆ กรุบกริบ 4 วัน 3 คืนค่ะ ซึ่งเราจะค้างบนรถไฟ Shiki Shima คืนที่ 2 ค่ะส่วนคืนแรกกับคืนสุดท้ายเราจะอยู่กันที่โตเกียวนะคะ แถมทริปนี้มีดาวเพื่อนสาวบล็อกเกอร์ที่น่ารักมาก ๆ อีกคนไปเที่ยวด้วยกันตามไปดูรัวิวและVDOสวย ๆ (สวยมาก ๆ ๆ คอนเฟิร์ม) ได้ที่เพจ When We Wander ค่ะ
Day 1
เริ่มเที่ยวกันวันแรกหลังจากลงจากเครื่องเราก็ตรงไปเดินเล่นมุ้งมิ้งกันที่ พิพิทธภัณฑ์หมู่บ้านโบราณ Nihon Minka-en ซึ่งรวบรวมบ้านโบราณของญี่ปุ่นจากหลากหลายพื้นที่มาใว้ที่เดียวกัน อย่างบ้านหลังคามุงจากหน้าตาน่ารักที่นักท่องเที่ยวชอบไปถ่ายรูปที่ Shirakawa-go ก็มีที่นี่เหมือนกันค่ะ
จากนั้นเราก็กลับเข้าโตเกียวไปทานซูชิ Omakase กันที่ร้านดังย่านกินซ่า Kyubei Sushi ร้านนี้รสชาติดีทีเดียว พัดประทับใจหอยตลับยักษ์ของเค้าสุด ๆ ค่ะ กรุบ ๆ หวาน ๆ พูดแล้วก็อยากทานอีก
แล้วเราก็จะไปสัมผัสความญี่ปุ๊นญี่ปุ่นดั้งเดิมกันค่ะก็คือประเพณีชงชาของเค้านั่นเอง แต่ก่อนที่จะไปชงชากันก็ต้องไปเปลี่ยนชุดให้เข้ากับบรรยากาศซะหน่อยเพราะเดี๋ยวเราจะไปจิบชากันที่สวนญี่ปุ่นที่สวยมาก ๆ เลยต้องแวะเช่าชุดกิโมโนกันก่อนค่ะ
ชุดพร้อม หน้าพร้อม ผมพร้อมแล้ว ก็ได้เวลามาชงชาที่ Happo-en สวนญี่ปุ่นใจกลางโตเกียว มาโตเกียวคราวก่อนพัดเคยรีวิวสวนนี้ไว้ด้วยค่ะไปอ่านเพิ่มกันได้ที่ article “Tokyo” นะค๊ะ Happo-en เป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมผสมผสานกับแบบประยุกต์ เป็นหน่ึงในสถานที่ที่คนญี่ปุ่นนิยมมาจัดงานแต่งงานและถ่ายรูป pre-wedding กันค่ะใครมาช่วงซากุระบานขอให้มาที่นี่เลยค่ะมีซากุระส่วนตัวให้ดูไม่ต้องแย่งกับคนอื่นค่ะ
ในส่วนของดินเนอร์วันนี้เราจะไปล่องเรือทานอาหารเย็นกันบนเรือยากาตะบุเนะ ได้ฟีลญี่ปุ่นดั้งเดิมมาก ๆ ค่ะแถมยังมีเกอิชามาดูแลเราบนเรือแล้วก็ร้องเพลง เล่นดนตรี ร่ายรำให้ดูด้วยค่ะ กำลังเคลิ้ม ๆ กับความสุนทรีย์แบบญี่ปุ่นอยู่ดีดี๊ เกอิชาของเรามาเต้น Fortune Cookie ซะงั้นค่ะ สนุกมากกกกกก ขำมากกกกก
จบโปรแกรมวันแรกแต่เพียงเท่านี้ค่ะแล้วเราก็ไปเช็คอินกันที่โรงแรม Imperial Tokyo เป็นโรงแรมที่ location ดีมากโรงแรมนึงเลยค่ะอยู่กลาง Ginza จะออกไปหาอะไรทานหรือไปช็อปปิ้งก็แสนจะสะดวก
Day 2
และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง วันนี้เราจะไปขึ้นรถไฟ Shiki Shima กันแต่เช้าที่สถานีรถไฟ Ueno Station พอรถจอดปุ๊บก็เจอพนักงานรถไฟตั้งขบวนรอเราอยู่ก่อนแล้วที่หน้าสถานีค่ะ นั่ลล๊าคคค จากนั้นก็พาเราไปยัง lounge รับรองแขกของรถไฟ Shiki Shima เพื่อต้อนรับและแนะนำรถไฟรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ บนรถไฟค่ะ นอกจากนั้นยังมีของที่ระลึกให้อีกด้วยค่ะ
แล้วเราก็ไปขึ้นรถไฟกันค่ะ ชานชลาของ Shiki Shima เป็นชานชลาพิเศษค่ะคือชานชลาที่ 13 1/2 นี่เรากำลังจะไปฮอกวอตส์รึป่าว 555
รถไฟ Shiki Shima มีทั้งหมด 10 ตู้ค่ะ ตู้ที่ 1 และ 10 เป็นห้องบังคับรถไฟและห้องนั่งเล่นดูวิวแบบพาโนรามา ชิลล์ม๊ากกกกกก
ขบวนที่ 2-4, 7-9 เป็นห้องพักค่ะ การตกแต่งก็จะเป็นแบบญี่ปุ่นร่วมสมัยค่ะ ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลายเวลาที่เราพักผ่อนค่ะ พัดชอบความเป็นญี่ปุ่นอย่างนึงก็คือเค้าจะให้ความสำคัญกับการออกแบบจัดสรรพื้นที่ต่าง ๆ ได้ดีมาก ๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นแม้ว่าห้องพักจะมีพื้นที่จำกัดแต่ว่าฟังก์ชั่นการใช้งานคือครบและดีงามมาก ๆ แถมยังดูสวยงามไม่รกตาด้วยค่ะอันนี้ทางถนัดของญี่ปุ่นเค้าเลยค่ะ
ตู้ที่ 6 เป็นห้องอาหารและครัวค่ะ เห็นว่าอยู่บนรถไฟแบบนี้อย่าคิดว่าอาหารจะบ้าน ๆ ง่าย ๆ นะคะเพราะเราจะได้ทาน fine dining ทุกมื้อ แล้วแต่ละมื้อก็จะมีเชฟชื่อดังตัวท็อปของญี่ปุ่นสลับหมุนเวียนมาทำอาหารให้เราทานค่ะรับประกันความอร่อยและไม่จำเจแน่นอนค่ะ
ส่วนตู้ต่อมาเป็นห้องที่พัดมาใช้ชีวิตอยู่มากที่สุดค่ะก็คือตู้ที่ 5 นั่นเองเป็นห้องนั่งเล่นและบาร์ ห้องนี้บรรยากาศคึกคัก สดใสร่าเริงมาก มานั่งดื่มบ้าง จิบกาแฟบ้าง เม้ามอยบ้าง เหมือนเป็นที่รวมตัวพบปะเพื่อนฝูงค่ะ
ระหว่างที่เราเดินทางบนรถไฟใช่ว่าจะต้องอยู่แต่บนรถนะคะเพราะเค้าก็จะมีโปรแกรมพาเราแวะเที่ยวและทำกิจกรรมตามจุดต่าง ๆ ตลอดค่ะรับรองว่าไม่เบื่อไม่เหงาแน่นอน
จุดแรกที่เราแวะก็คือร้าน Bettei Zabou ที่ Fuefuki Host Spring เพื่อทานอาหารกลางวันกันค่ะ
แล้วต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์ไวน์มิยาโกะเอ็น ซึ่งถือเป็นที่ทำไวน์ญี่ปุ่นที่แรกในประเทศเลยค่ะ แล้วต่อด้วยไร่องุ่นและโรงบ่มไวน์ ชาโต ลูมิเยร์ ชิมไวน์แบบรัว ๆ เอากันให้เมากันไปข้างนึงเลยค่ะวันนี้
ในส่วนของมื้อเย็นวันนี้เราทานกันบนรถไฟค่ะ เนื้ออร่อยม๊ากกกกกกก happy
Day 3
เริ่มต้นวันใหม่กันด้วยอาหารเช้าแบบไคเซกิที่เมืองฟุกุชิมะกันค่ะ
จากนั้นก็ไปชมเครื่องเขินญี่ปุ่นโบราณที่เมืองไอสุซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 400 ปี แล้วยังได้ลองเพนท์กันด้วยอันนี้พัดสนุกมากกกกกก ชอบวาดรูประบายสีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฟินสิคะ
จากนั้นก็กลับมาทานอาหารกลางวันกันบนรถไฟค่ะ วันนี้เป็นอาหารฝรั่งเศส อร่อยทุกอย่างเลยโดยเฉพาะเนื้อฟินมากอีกแล้ว อร่อยน้ำตาไหล ก็เราเป็น beef lover ตัวจริงนี่นะ
ตกเย็นก็ได้เวลาอำลารถไฟ Shiki Shima แล้วค่ะรถไฟมาส่งที่สถานี Ueno เหมือนเดิม พัดลืมบอกไปว่าเรามีตากล้องประจำรถไฟด้วยนะคะเค้าจะคอยตามถ่ายรูปเก็บภาพให้เราตลอดเวลาเลยค่ะ รูปสวยมากด้วย พอจบทริปคุณลุงตากล้องก็ทำ presentation รูปและเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างที่เราอยู่บนรถไฟและลงไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างทางมาเปิดให้ดูก่อนกลับค่ะ
อีกอย่างที่พัดประทับใจมาก ๆ ของรถไฟนี้ก็คือการให้บริการของพนักงานทุกคนบนรถไฟ ทุกคนน่ารักม๊ากกกกก service-mind ชนะเลิศ เค้าใส่ใจและเก็บรายละเอียดของทุกคนจริง ๆ ค่ะ อย่างพี่มาวินเนี่ยเป็นคนทานเก่งมากเว่อร์ พอทานข้าวเสร็จเค้าแอบไปเห็นพี่มาวินไปสั่งอาหารอีกร้านทานเพิ่มเค้ารีบเดินมาถามเลยว่าเมื่อกี๊ยูไม่อิ่มหรอ อาหารน้อยไปรึป่าว หลังจากนั้นอาหารพี่มาวินก็จะได้ portion ใหญ่กว่าชาวบ้านตลอดค่ะ555 น่ารักปะล่ะ
อีกสิ่งนึงที่พัดพึ่งรู้ตอนลงจากรถไฟแล้วก็คือเรื่องจำนวนคนขับรถไฟค่ะ เราอยู่บนรถไฟแค่ 2 วัน 1 คืนให้ทายเค้าใช้คนขับรถไฟกี่คน ติ๊กต็อก ๆ ๆ อย่างมากให้เลย 5 คนถ้าให้เดา ปรากฎว่าเค้าใช้ไปเท่าไหร่รู้มั้ยคะ 13 คนค่ะ OMG เหตุผลก็คือว่าแต่ละพื้นที่ก็จะมีภูมิประเทศที่ต่างกันเส้นทางไม่เหมือนกัน เค้าเลยให้คนขับรถไฟของแต่ละพื้นที่มาขับในพื้นที่ที่แต่ละคนถนัดค่ะ เพื่อที่รถจะได้สมูทที่สุดเพราะแต่ละคนเค้าจะชำนาญพื้นที่ของตัวเองว่าต้องเข้าโค้งตรงไหนเลี้ยวยังไงผู้โดยสารจะได้นั่งสบายที่สุดค่ะ อันนี้สุดมากกกกกก แล้วเดี๋ยวก่อนไม่ใช่นึกจะให้ใครมาขับก็ได้นะคะ ทุกคนต้องมาอบรมทฤษฎีและปฏิบัติก่อนอย่างน้อย 1 ปีถึงจะได้มาขับรถไฟ Shiki Shima !!! ก็ว่าอยู่ทำไมรถไฟจอดบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้มีโปรแกรมแวะทำอะไร ที่แท้เค้าแวะรับคนขับนี่เองค่ะ
มาถึงมื้อเย็นของเราวันนี้ไปทาน ชาบูเนื้ออิมพีเรียลวากิว A5 กันที่ร้านดัง Zakuro ค่ะ มื้อนี้อิ่มมากกกกกก แต่พัดไม่ค่อยชอบทานชาบูญี่ปุ่นเท่าไหร่ก็เลยไม่ค่อยฟินพัดเป็นสาย Sukiyaki ญี่ปุ่นมากกว่าค่ะ
แล้วก็กลับโรงแรมคืนนี้เรานอนที่เดิมที่โรงแรม Imperial Tokyo ค่ะ
Day 3
วันนี้หลังทานอาหารเช้าที่โรงแรมเราก็จะไปเรียนทำซูชิกันค่ะ เค้าก็จะสอนวิธีการปั้นซูชิแล้วก็ให้เราลองทำเอง ทำเสร็จก็ทานของตัวเองนั่นแหละค่ะไม่กล้าให้คนอื่นทานกลัวเค้าท้องเสีย ฝีมือปั้นซูชิของพัดหน้าตาพอได้มั้ยคะ XD
หลังจากนั้นก็เป็นโปรแกรม shopping shopping แล้วก็ Shopping จนตกเย็นก็ไปดินนเนอร์กันที่ร้าน Teppanyaki ชื่อดัง Seryna ก่อนที่ทุกคนจะขึ้นเครื่องกลับคืนนี้จบทริปสุด exclusive กับ World Surprise Travel ไปแบบฟิน ๆ เพราะร้านนี้อร่อยมากจริง ๆ ค่ะทั้งเนื้อที่ละลายในปาก ทั้งกุ้ง ทั้งเป่าฮื้อ มาเต็ม ของหวานเค้าก็อร่อยเหมือนกันค่ะ
แต่ว่าพัดยังไม่กลับนะคะพัดอยู่เที่ยวต่อเองอีก 3 คืนจริง ๆ ไม่ได้เรียกว่าอยู่เที่ยวต่อควรจะเรียกว่าอยู่กินต่อมากกว่าเพราะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากตระเวณทานของอร่อยทั้งวัน lol ไว้เดี๋ยวพัดจะมาเล่าให้ฟังนะคะว่าไปทานอะไรมาบ้าง ร้านไหนเด็ด ร้านไหนต้องไปโดน
สำหรับใครที่อยากไปขึ้นรถไฟชิกิชิมะตอนนี้การจองสำหรับลูกค้าทั่วไปเต็มจนถึง 31 มีนาคม 2019 แล้วค่ะ ซึ่งยังคงเปิดให้เฉพาะคนญี่ปุ่นจองเท่านั้นแถมส่งแบบฟอร์มไปแล้วต้องจับฉลากเอาว่าใครจะได้ไป แต่ถ้าใครอยากไปแบบไม่ต้องรอไม่ต้องลุ้นก็สามารถติดต่อ World Surprise Travel ได้เลยค่ะ ตอนนี้เค้ามีเหมาขบวนอีกรอบช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ด้วยนะคะ
World Surprise Travel
www.worldsurprise.com
Tel. 02-634-8877
Based in Bangkok, Thailand