มาแล้วววววว article ที่ภูมิใจนำเสนอมาก ๆ ค่ะบอกเลยว่าอยากให้อ่านมากเพราะรีสอร์ตนี้มันเริ่ดที่สุดใน 3 โลก ชีวิตนี้ขอให้ได้มาซักครั้งค่ะพูดเลย Qasr Al Sarab Desert Resort by Anantara เป็นรีสอร์ตสุดหรูสไตล์อาหรับที่ตั้งอยู่กลางทะเลทรายที่มีทัศนียภาพที่สวยงามมาก ๆ ค่ะ เพราะทะเลทรายแถวนี้เค้าจะเป็นคลื่นเป็นริ้วมีความสูงต่ำ แถมยังเป็นสีทองพอกระทบกับแสงเป็นเงาแล้วสวยม๊ากกกกกกก ช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ ก็จะเป็นสีส้ม ๆ ทอง ๆ ต่างจะทะเลทรายที่อื่น ๆ ใน UAE ที่มักจะเป็นที่ราบทะเลทรายที่นี่เลยมีความโดดเด่นสูงมากค่ะ
ที่ประเทศนี้อย่างที่บอกว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เพราะเงินบันดาลได้ทุกสิ่งจริง ๆ ค่ะ รวมถึงรีสอร์ตแห่งนี้ที่มาตั้งอยู่กลางทะเลทรายเรียกว่า in the middle of nowhere เลยค่ะ ระหว่างทางที่ขับรถมาแทบไม่มีอะไรเลยคิดว่าถ้ารถเสียกลางทางร้องไห้แน่ ๆ Qasr Al Sarab Desert Resort by Anantara เค้าได้แรงบันดาลใจในการสร้างจากวังแบบอาหรับที่นี่เลยมีความวังรวมถึงความเว่อร์วังอลังการสูงมาก อยู่ที่นี่เหมือนได้มาเป็นแขกของสุลต่านนอนพักในพระราชวังยังไงยังงั้นเลยค่ะ แล้วที่นี่เค้าทุ่มทุนสร้างให้เหมือนวังจริง ๆ นะคะไม่กะโหลกกะลาใช้งบสร้างไป 15,000 ล้านบาทเท่านั้นเอ๊ง ประเทศเค้ารวยจริงอะไรจริงค่ะไม่ต้องไปคิดให้ปวดหัวค่ะว่าเมื่อไหร่จะคืนทุน อ้อลืมบอกไปว่าเจ้าของที่นี่ก็คือรัฐบาลประเทศเค้าค่ะแต่ว่าให้ Anantara บริษัทของไทยเราบริหารให้ค่ะ
ตั้งแต่พัดขับรถเข้ามาในเขตโรงแรมก็ตื่นเต้นสุด ๆ แล้วค่ะเพราะเราจะเริ่มเห็นทะเลทรายเป็นเนินเป็นคลื่นตลอดทาง
พอถึงทางเข้าโรงแรมมันแบบสวยมากกกก ตะลึง ถ่ายรูปมายังไงก็ไม่สวยเท่าได้มาเห็นกับตาเลยค่ะ
ในส่วนของล็อบบี้ก็มีความวังสุลต่านบรรยากาศมันใช่สุด ๆ พอเรามาเช็คอินเค้าก็จะมี welcome drink และของว่างให้เป็นอินทผาลัมค่ะ
บรรยากาศรอบ ๆ โรงแรมก็สวยมากเลยค่ะ ช่วงเย็นพัดออกมาเดินเล่นในทะเลทรายทรายนิ่มมากกกกก แนะนำว่าถอดรองเท้าเดินสบายกว่าเยอะเลยค่ะ พอพระอาทิตย์เริ่มตกถ่ายรูปสวยมาก ๆ แสงแต่ละช่วงเวลาถ่ายรูปออกมาได้รูปคนละฟีลกันเลย
ในส่วนของห้องพักของพัดเป็นแบบ Deluxe Terrace Room ซึ่งมีระเบียงกว้างมาก ทั้งที่ระเบียงและห้องนอนมองเห็นวิวทะเลทราย ห้องสวยมากประทับใจสุด ๆ ค่ะ
Restaurants
มาพักโรงแรมนี้บอกเลยว่าอย่าหวังว่าจะได้ไปทานอาหารนอกโรงแรมเพราะรอบ ๆ โรงแรมมีแต่ทะเลทรายค่ะแต่จะบอกว่าห้องอาหารที่นี่เค้าเริ่ดจนพัดไม่อยากออกไปไหนเลยทีเดียว วันแรกพัดไปทานดินเนอร์ที่ Al Falaj เป็นBarbecue กลางทะเลทรายซึ่งเค้าจัดใว้สวยมากกกก โรแมนติกสุด ๆ ค่ะ แล้วตรงนี้เค้าจะมีแค่ช่วง winter นะคะ อากาศกลางคืนค่อนข้างเย็นอากาศดี๊ดี แถมดาวเต็มฟ้าเลยค่ะเกิดมาไม่เคยเห็นดาวเยอะขนาดนี้มาก่อน ส่วนอาหารจะเป็นแบบ BBQ buffet สไตล์อาหรับค่ะ รสชาติดีทีเดียว
มาดูอาหารเช้ากันบ้างค่ะที่ Al Waha บอกเลยว่าเป็นไลน์บุฟเฟต์ที่อลังการมากกกกกกกก อาหารจะเยอะไปไหน พัดยืนงงอยู่แป๊บนึงเพราะไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี555 พัดติดใจมัฟฟินอินทผาลัมของที่นี่มาก ๆ เลยค่ะอร่อยสุด ๆ ข้างในจะเป็นใส้อินทผาลัมเยิ้ม ๆ เหมือนคาราเมลแต่ว่าหอมหวานอร่อยมากค่ะทานจนลืมอ้วนไปเลย จนถึงตอนนี้ก็ยังอยากกลับไปทานอยู่เลยค่ะ XD
ที่ห้องอาหารเช้าตรงโซนระเบียงด้านนอกมีนกเยอะม๊ากกก ระหว่างเราทานอาหารก็จะมีแก็งค์มาเฟียนกกระจิบมาจู่โจมแบบไม่เกรงใจเลยค่ะ มาร่วมโต๊ะอาหารกับเราประหนึ่งว่าเป็นญาติพี่น้อง เผลอไม่ได้เลยเดี๋ยวมาจิบกาแฟบ้าง มาทานขนมปังบ้าง แต่พัดชอบนะคะน่ารักดีรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมาก ๆ ค่ะ ดูแล้วเพลินดีค่ะ นอกจากแก๊งนกกระจิบแล้วก็ยังมีอีก 1 นกก็คือนกอินทรีย์ที่มายืนโชว์ตัวที่ห้องอาหารใครอยากให้เค้าเกาะแขนอยากถ่ายรูปได้ตามสบายเลยค่ะคุณนกอินทรีย์เค้าเชื่องมากค่ะ
ในส่วนของอาหารเย็นวันที่ 2 พัดไปทานที่ห้องอาหาร Suhail ค่ะ เป็น rooftop terrace บรรยากาศดีหรือใครอยากจะนั่งด้านในก็ได้ฟีลหรูหราอาหรับค่ะ ส่วนอาหารรสชาติดีค่ะ
Activities
จริง ๆ เค้ามีให้เลือกเยอะทีเดียวค่ะแต่ด้วยความขี้เกียจของพัด(อีกแล้ว555) พัดก็เลยได้ทำแค่อย่างเดียวก็คือ “Sunrise Camel Ride” เป็นการขี่อูฐไปตามทะเลทรายชมพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ ซึ่งเราจะต้องไปขึ้นอูฐตั้งแต่ตี 5:45 ค่ะ ทำร้ายจิตใจคนชอบตื่นสายแบบพัดมากกกกก แต่ว่ามัน worth กับการต้องตื่นเช้าจริง ๆ ค่ะเพราะอากาศดีม๊าก เย็น ๆ ควรใส่เสื้อผ้าที่อุ่นนิดนึงนะคะ น้องอูฐเค้าเชื่องมาก ๆ น่าร๊ากชอบอูฐขึ้นมาเลยขนตานางยาวงอนเด้งมาก
หลังจากขี่อูฐชมวิวไปตามทะเลทรายจนสุดทาง โรงแรมเค้าจะเตรียมอาหารเช้า ชา กาแฟและเก้าอี้ไว้ให้ค่ะ คือดีมากชิลล์มากค่ะได้ทานอาหารกลางทะเลทรายอากาศก็ดี วิวก็สวย ใครมาอยากให้ลองกันนะคะ จริง ๆ เค้ามีแบบ Sunset ด้วยค่ะแต่อากาศจะร้อนกว่าค่ะ
นอกจากนั้นที่นี่ก็ยังมี spa, desert yoga, sand boarding, ยิธนู, desert drives แล้วก็ dune bashing ขับรถผาดโผนไปตามทะเลทรายซึ่งถ้าใครไม่ชอบความเร็วหรือเป็นคนเมารถอาจจะไม่ค่อยเหมาะค่ะ เพราะเค้าแนะนำว่าให้งดอาหารก็ซัก 2 ชั่วโมงก่อนจะขึ้นรถ (คิดว่าไม่งั้นอาจจะอาเจียนได้ค่ะ)
Transportation
ขามาพัดเช่ารถขับมากจากสนามบินดูไบค่ะใช้เวลา 3 ชั่วโมง ส่วนขากลับพัดขับไปอาบูดาบีค่ะใช้เวลา 2 ชั่วโมง ขับไม่ยากค่ะแต่ระหว่างทางพออกไปนอกเมืองแล้วส่วนมากเป็นทะเลทรายจะไม่ค่อยมีปั๊มน้ำมัน ร้านค้า หรือห้องน้ำเท่าไหร่ค่ะ แล้วก็แดดแรงมาก ๆ ค่ะ
Based in Bangkok, Thailand