ใครอยากจะไปส่องสัตว์ซาฟารีแต่ไม่อยากไปไกลถึง Africa วันนี้พัดจะพาไปที่เกาะ Sir Bani Yas ที่ Abu Dhabi ประเทศ United Arab Emirates ค่ะ จริง ๆ ก่อนที่จะวางแฟนมาเที่ยวแถบตะวันออกกลางพัดก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าแถวนี้จะมีอะไรแบบนี้ด้วย เรียกว่าทริปนี้เป็นการเปิดประสบปารณ์ใหม่ให้พัดมากเลยค่ะ
Transportation
การที่เราจะไปที่เกาะนี้เราต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือของเกาะนี้โดยเฉพาะค่ะ ทางโรงแรมเค้าจะมีจุดจอดรถและ lounge ไว้สำหรับรับรองแขกก่อนที่จะขึ้นเรือ ferry ของโรงแรมเพื่อข้ามไปยังเกาะค่ะ พอขับรถไปจอดปุ๊บก็จะมีพนักงานมาช่วยเราขนกระเป๋าไปเก็บให้ค่ะแล้วเราก็ค่อยวนรถไปจอดสบายมาก ๆ แถมที่จอดรถก็ทำไว้ดีมากค่ะ
ทริปนี้พัดเช่ารถขับค่ะ ที่จุดขึ้นเรือไป Sir Bani Yas Island ห่างจาก Abu Dhabi ไม่ไกลมากค่ะประมาณ 200 KM ขับมาได้สบาย ๆ เหมือนกรุงเทพฯ-พัทยา
Accommodation
ที่ Sir Bani Yas เป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่ห่างจาก Abu Dhabi ประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ บนเกาะจะมี 3 properties ซึ่งบริหารงานโดย Anantara ทั้งหมดค่ะ
- Desert Islands Resort & Spa by Anantara : โรงแรมแบบห้องพักบนตึก ส่วนมากจะเป็นครอบครัวพาลูก ๆ มาพักที่นี่ค่ะ
- Anantara Sir Bani Yas Island Al Sahel Villa Resort : วิลล่ากลางป่า Savanna
- Anantara Al Yamm Resort : วิลล่าริมทะเล
ไหน ๆ ก็มาแล้วพัดเลยเลือกพัก 2 แบบเลยก็คือ Al Sahel Safari Villa Resort และ Al Yamm Resort
Anantara Al Yamm Resort
คืนแรกพัดอยากมาพักผ่อนชิลล์ ๆ ไม่ต้องทำอะไรมากเพราะเหนื่อยจากการเดินทางพัดเลยเลือกนอนที่วิลล่าริมทะเลก่อนค่ะ ที่ Al Yamm Resort มี beachfront villa 2 แบบคือแบบริมหาดทรายและแบบริมชายหาดป่าโกงกาง พัดชอบหาดทรายมากกว่าเลยเลือกพักแบบนี้ค่ะ วิลล่าเค้าจะอยู่บนหาดเลยค่ะ ด้านในห้องพักเค้าก็จะสีสันสดใส เปิดประตูออกมาก็เจอทะเลเลย มีระเบียงให้นั่งเล่นชมวิวด้วยค่ะ
บรรยากาศรอบ ๆ ก็จะเป็นหาดทรายและทะเลที่ยังดิบ ๆ อยู่ยังธรรมชาติอยู่มากค่ะ
ที่นี่มีห้องอาหารอิตาเลียนด้วยค่ะ พัดรอดตายแล๊ววววววว
Anantara Sir Bani Yas Island Al Sahel Villa Resort
วันต่อมาเราก็ย้ายมาที่ Al Sahel Villa Resort บรรยากาศที่นี่ก็จะต่างกับที่ Al Yamm โดยสิ้นเชิงเลยค่ะ เริ่มสัมผัสได้ถึงการมาเยือนซาฟารี ในบริเวณรอบ ๆ รีสอร์ทก็จะมีเก้งกวางเดินเล่นไปมาให้เห็นตลอดค่ะ
ในส่วนของวิลล่าของเราก็จะให้อารมณ์เหมือนกางเตนท์กลางป่ามาก ๆ ค่ะ แต่ภายในห้องก็ตกแต่งสวยงามเหมือนนอนรีสอร์ท ที่ระเบียงมีสระน้ำเล็ก ๆ ใว้ให้แช่ตัวด้วยค่ะ
สำหรับแขกรับเชิญของเราที่นี่ก็คือนกยูงค่ะ มีเยอะมาก ๆ เค้าจะอยู่รอบ ๆ วิลล่าของเราบางทีก็เข้ามาเดินเล่นที่ระเบียงค่ะ ถ้าดึก ๆ ใครได้ยินเสียงร้องโหยหวนก็อย่างพึ่งหลอนไปนะคะเพราะไม่ใช่สิ่งลึกลับที่ไหนแต่เป็นเจ้านกยูงนี่แหละค่ะ ร้องทั้งวันเสียงไม่สวยเหมือนหน้าตาเอาซะเลย
กิจกรรมที่ใครที่มารีสอร์ทนี้ก็ห้ามหลาดเด็ดขาดก็คือนั่งรถเข้าป่าไปส่องสัตว์ค่ะ รถคันนี่แหละค่ะที่จะพาเราตะลุยเข้าไปดูสัตว์ต่าง ๆ พร้อมกับไกด์ของเราที่นอกจากขับรถแล้วข้อมูลเค้ายังแน่นมากเวอร์ รู้รายละเอียดทุกอย่างของสัตว์ที่นี่ค่ะ
ที่นี่มีเก้งกวางสาระพัดชนิดเรียกว่าเยอะมาก ๆ แต่ที่พัดชอบมากก็คือเจ้ายีราฟที่นี่ค่ะบางทีเดินมาหาเองถึงรถเลย ส่วนพระเอกที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเจ้าเสือชีตาห์ค่ะมีด้วยกัน 1 คู่เท่านั้น เค้าจะอยู่ด้วยกันตลอดเลยค่ะไกด์ของเราเค้าจะรู้พิกัดว่าแต่ละวันพี่ชีตาห์เค้าอยู่แถวไหนค่ะไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เจอไกด์โทรนัดให้แล้วค่ะ ส่วนวันนี้พี่ชีตาห์เค้ากินมาอิ่มมากค่ะเลยนอนอืดกลิ้งไปกลิ้งมาไม่ออกวิ่งให้ดูเลย ขยับตัวมากสุดคือเปลี่ยนท่านอน 555 (เห็นแล้วนึกถึงแมวขี้เกียจที่บ้านที่วัน ๆ ก็กินกับนอน)
เห็นสัตว์ป่าเยอะแยะมากมายขนาดนี้จริง ๆ แล้วเค้าไม่ได้อยู่ที่นี่ตามธรรมชาตินะคะ ก่อนหน้านี้เกาะนี้เป็นทะเลทรายแห้งแล้งค่ะไม่มีอะไรเลย ต้นไม้ก็น้อยมาก ๆ แต่ วันนึง shiek ผู้ปกครองAbu Dhabi อยากจะอนุรักษ์สัตว์ป่าไม่ให้สูญพันธุ์ก็เลยสร้างเกาะนี้ให้เป็นป่า Savanna เอาต้นไม้มาปลูก เราจะเห็นได้ว่าต้นไม้ทุกต้นบนเกาะนี้จะมีสายยางให้น้ำหล่อเลี้ยงอยู่ค่ะ ส่วนสัตว์ต่าง ๆ ก็เลือกสัตว์ที่ทนต่อความร้อนของสภาพภูมิอากาศของประเทศเค้าได้มาเลี้ยง นำมาจากประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะแถบแอฟฟริกา สัตว์ที่อยู่ที่นี่จะทนความร้อนได้มากถึง 42 องศาเซลเซียสค่ะ ช่วงที่อากาศร้อนมาก ๆ สัตว์พวกนี้เค้าจะไปหลบอยู่ใต้ต้นไม้ค่ะเพราะใต้ต้นไม้อุณหภูมิจะต่ำกว่า 2-3 องศาค่ะ
การเลี้ยงสัตว์ที่นี่ไม่เหมือนสัตว์ในสวนสัตว์นะคะ เพราะเค้าจะมีการควบคุมการให้อาหารและการสืบพันธุ์ค่ะ การให้อาหารเค้าจะให้แค่ 10-20% ของอาหารที่สัตว์กินในแต่ละวันเพื่อให้สัตว์เหล่านี้รู้จักการออกหาอาหารเองตามธรรมชาติค่ะ ส่วนการสืบพันธุ์เค้าจะควบคุมไม่ให้สัตว์มีลูกมากจนเกินไปค่ะเพราะไม่งั้นจำนวนสัตว์จะมากเกินและสัตว์จะเริ่มต่อสู้และล่ากันเองเพื่อแย่งอาณาเขตและอาหารค่ะ
Weather and What To Wear
พัดไปช่วงเดือนมีนาซึ่งถือว่าเป็นช่วงปลายของ high season แล้วค่ะอากาศยังดีอยู่ไม่ร้อนมากแดดแรงก็จริงแต่อากาศไม่ร้อน ส่วนกลางคืนจะเย็น ๆ หน่อย ช่วงนี้เด็ก ๆ ที่นี่ปิดเทอมโรงแรมก็จะราคาสูงหน่อยแล้วก็แขกเข้าพักเยอะโดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกค่ะ เด็ก ๆ เต็มไปหมดค่ะโดยเฉพาะที่ Desert Islands Resort & Spa by Anantara ส่วนอีก 2 property ที่พัดพักเด็กไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ ใครไม่ชอบเสียงดังไม่ชอบความวุ่นวายแนะนำว่าให้พักที่ Anantara Sir Bani Yas Island Al Sahel Villa Resort และ Anantara Al Yamm Resort เลยค่ะ
การแต่งกายช่วงกลางวันแต่งตัวเหมือนอยู่ไทยได้เลยค่ะ จะใส่บีชแวร์นอนอาบแดดก็ยังได้ แต่กลางคืนอาจจะใส่เสื้อคลุมหรือเสื้อผ้ามิดชิดหน่อยเพราะอากาศเย็นค่ะ
