Kanazawa, Japan

เห็นชื่อเมืองแล้วงงกันใช่มั้ยคะว่ามันคือที่ไหนของญี่ปุ่น ก่อนพัดไป Kanazawa ก็เรียกได้ว่าไม่เคยได้ยินชื่อเมืองนี้มาก่อนเลยเหมือนกันค่ะทำการบ้านเสิร์ชหารีวิวของคนอื่นก็มีน้อยม๊ากกกกก ทำเอาใจแป้วไปเหมือนกันว่ารอดมั้ยน้อออ  แต่พอไปแล้วก็รู้สึกว่าเมืองนี้เค้าก็มีสเน่ห์ไปอีกแบบ เหมาะกับใครที่ชอบไปเที่ยวแบบ slow life มาก ๆ เลยค่ะ ว่าแล้วก็ตามไปดูกันค่ะ

How To Get There

พัดเดินทางด้วยสายการบิน Japan Airlines(JAL) ที่มีเส้นทางการบินภายในประเทศเยอะที่สุดในญี่ปุ่นเลยค่ะ  เราเลยสบายใจหายห่วงบินไปลงโตเกียว(Haneda Airport) แล้วต่อเครื่องแบบชิว ๆ ไปถึง Kanazawa ได้เลยค่ะ

ที่นั่งกว้างแล้วออกแบบได้ดีรู้สึกเป็นส่วนตัวมาก ๆ ค่ะพัดเลยนอนหลับสบายยยยยย  พัดชอบอีกอย่างตรงที่มีอาหารญี่ปุ่นเสิร์ฟบนเครื่องด้วยทำให้รู้สึกเหมือนเราเริ่มเข้าใกล้ญี่ปุ่นเข้าไปทุกที ๆ ค่ะ

Japan Airlines Business Class
Japan Airlines Business Class

บนเครื่องบินเค้ามี Wi-Fi คอยให้บริการแต่ส่วนไฟลท์ในประเทศมี Free Wi-Fi ตลอดการเดินทางไว ้คอยให ้บริการ ด้วยเช่นกันตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.th.jal.co.jp

Japan Airlines Business Class
In-flight WiFi for Business Class passengers

อ้อแล้วใครที่กังวลเรื่องการสื่อสารกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน JAL เค้ามีแอร์โฮสเตสคนไทยด้วยนะคะ อย่างเที่ยวบินทั้งขาไปและกลับของพัดก็มีแอร์คนไทยมาดูแลตลอดเที่ยวบินค่ะ รู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่เดินทางแล้วมีแอร์คนไทยมาดูแลค่ะ

ที่ชอบอีกอย่างคือ JAL เค้ามี loungeให้บริการทุกที่จริง ๆ ไม่ว่าจะที่สุวรรณภูมิ  เปลี่ยนเครื่องภายในประเทศที่ Haneda Airport  หรือจะเป็นที่สนามบินเล็ก ๆ อย่างที่ Komatsu Airport ที่ Kanazawa ทุกที่มี Sakura Lounge ให้บริการทั้งหมดเลยค่ะ  ซึ่งใครที่ชอบความเป็นญี่ปุ่นก็น่าจะถูกใจค่ะเพราะไม่ว่าการบริการหรืออาหารเค้าก็จะมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองค่ะ

Sakura Lounge at Suvarnabhumi Airport
Sakura Lounge at Suvarnabhumi Airport
Sakura Lounge at Haneda Airport
Sakura Lounge at Haneda Airport
Sakura Lounge at Komatsu Airport
Sakura Lounge at Komatsu Airport

ตอนเปลี่ยนเครื่องก็สะดวกมาก ๆ ลงจากเครื่องปุ๊บมีเคาเตอร์ให้ดร็อปกระเป๋าเลยไม่ต้องลากไปอีก terminal ให้เหนื่อยแล้วเราก็ขึ้นรถบัสของสายการบินแบบตัวปลิวไปอีก terminal เพื่อขึ้นเครื่องได้เลยค่ะสะดวกมาก ๆ สมแล้วที่เป็น 5-star airlines !

พอผ่านต.ม.รับกระเป๋าที่สายพานแล้วออกมานิดเดียยก็เจอที่ดร็อปกระเป๋าสำหรับผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องบินภายใยประเทศเลยค่ะ
พอผ่านต.ม.รับกระเป๋าที่สายพานแล้วออกมานิดเดียยก็เจอที่ดร็อปกระเป๋าสำหรับผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องบินภายในประเทศเลยค่ะ
ข้าง ๆ ที่ดร็อปกระเป๋าก็คือจุดขึ้นรถบัสเพื่อไปเทอร์มินอลสำหรับบินภายในประเทศค่ะ ที่สนามบินมีป้ายบอกตลอดไม่ต้องกลัวหลงค่ะ
ข้าง ๆ ที่ดร็อปกระเป๋าก็คือจุดขึ้นรถบัสเพื่อไปเทอร์มินอลสำหรับบินภายในประเทศค่ะ ที่สนามบินมีป้ายบอกตลอดไม่ต้องกลัวหลงค่ะ

ใกล้ถึงแล้ววิวจากบนเครื่องสวยมากกกกก

พัดรีวิวสายการบินนี้ให้ดูแบบเต็ม ๆ ไว้ด้วยว่าดีงามยังไงบ้างค่ะดูได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ facebook.com/160837924295229/posts/825368061175542?sfns=mo

หลังจากที่ถึงสนามบินพัดก็นั่ง Limousine Bus ไปโรงแรมที่พัก  ตั๋ว Limousine Bus กดซื้อได้จากตู้หน้าสนามบินเลยค่ะ(1,130Yen)  แต่ความยากก็มีตรงที่พอเป็นเมืองเล็กมันจะไม่ค่อยมีภาษาอังกฤษโชคดีที่มีคนญี่ปุ่นน่าร๊ากกกกคงเห็นหน้าเราอ๊องๆเลยมาช่วยกดซื้อตั๋วให้

ความโชคดีอีกอย่างคือ Limousine Bus จอดที่หน้าโรงแรมที่พัดพักพอดิบพอดี  สบายไปอีก

Where To Stay

ทริปนี้พัดพักที่โรงแรม The Square Hotel Kanazawa เป็น boutique hotel เล็ก ๆ location ดีมากอยู่ข้างๆตลาดปลาเลยเราไม่อดตายแน่แล้ว ข้าง ๆ มี minimart  ตรงข้ามเป็นห้าง และใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปหลายที่เลยค่ะ

โรงแรมนี้พัดชอบอยู่นะ  คือตกแต่งเรียบๆแต่เก๋มีความชิคอยู่ พนักงานก็ให้ความช่วยเหลือดีมากค่ะ ห้องพักดีงามเทียบกับมาตรฐานห้องพักญี่ปุ่นถือว่าไม่แคบ แถมชั้นบนสุดมี public bath แยกห้องหญิงชายให้ขึ้นไปแช่น้ำร้อนได้ฟรี มีทั้งแบบ indoor และ outdoor เลยค่ะ พัดไปแช่เกือบทุกวันบอกเลย

Tourist Attraction

ที่แรกที่เราไปกันก็คือ“ตลาดปลา”ค่ะ  แหมอยู่ข้าง ๆ โรงแรมแค่นี้จะให้ไม่ไปได้ยังไงกันเดินไป 1 นาทีก็ถึงละ  ช่วงเช้าถึงเที่ยงคนจะเยอะพอควรค่ะ ยิ่งช่วงเที่ยงเนี่ยคนมาทานอาหารกลางวันกันเยอะมากค่ะ  เนื่องจาก Kanazawa เป็นเมืองติดทะเลพวกอาหารทะเลที่นี่เค้าก็จะดังอยู่  มีร้านซูชิ ร้านข้าวหน้าปลาดิบเยอะมากละลานตาจนเลือกไม่ถูกว่าจะทานร้านไหนดี  เท่าที่ทานมา 3 ร้านถือว่าคุณภาพดีใช้ได้ทีเดียวราคาก็ดี  แต่คุณภาพก็แบบกลางๆถึงดีคือไม่ได้แบบสุดยอดเหมือนเวลาไปทาน omakase ร้านดัง ๆ อะไรแบบนั้นนะคะแต่ก็สดอร่อยไม่เฟลค่ะ

วันต่อมาพัดไป Kanazawa Castle และสวน Kenroku-en Garden ซึ่งอยู่ติดกันค่ะ  ที่นี่ก็เหมาะมาเดินเล่นถ่ายรูปชิลล์ๆ คนไม่เยอะมาก  จริงๆ แล้วหน้า Kanazawa Castle เนี่ยที่เห็นเป็นต้นซากุระทั้งหมดเลยนะคะ  แต่เรามาเร็วไปนีสสสส์ก็เลยยังไม่บานค่ะถ้ามาช้ากว่านี้สัก 2 อาทิตย์รับรองว่าบานสะพรั่งสวยสะพรึงแน่นอน

ที่สวน Kenroku-en Garden ก็จะเป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเลยค่ะก็เลยจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติใส่ชุดกิโมโนมาถ่ายรูปกันที่นี่ค่ะ

วันที่ 3 พัดเริ่มจากไป 21st Century Museum of Contemporary Art ค่ะ ที่นี่เค้าจะจัดแสดงผลงานของศิลปินร่วมสมัยที่ได้รับรางวัลจากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและจากทั่วโลก  ที่นี่จะอนุญาติให้ถ่ายรูปได้เฉพาะด้านนอก  ส่วนด้านในที่แสดงผลงานต่าง ๆ เค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปเลยค่ะมีห้องเดียวที่ถ่ายได้ก็คือสระว่ายน้ำที่เป็น signature ของพิพิธภัณฑ์นี้ค่ะ

ใครอยากมาเข้าชมที่นี่เปิดวันอังคารถึงเสาร์นะคะ 10:00-21:00น. ปิดวันจันทร์ค่ะ

สถานที่ต่อมาเรียกว่าเป็นจุดที่พัดชอบมากที่สุดของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ค่ะนั้นก็คือหมู่บ้านโบราณที่มีอายุกว่า 180 ปีที่ “Hagashi Chaya District” ถ้าใครเคยไปเดินเล่นแถว Gion ที่เกียวโตอารมณ์ที่นี่ก็จะประมาณนั้นเลยค่ะ  บ้านที่นี่เรียกว่า Chaya House คือเป็นบ้านสองชั้นชั้นล่างด้านนอกจะเป็นไม้ระแนงซี่ ๆ(kimusuko) เป็นเอกลักษณ์ของบ้านแบบนี้ค่ะ หมู่บ้านนี้มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะค่ะซึ่งสมัยนั้นเนี่ยเค้าไม่อนุญาตให้สร้างบ้านสองชั้นยกเว้น Chaya House แถวนี้ส่วนมากก็จะเป็นแหล่งเกอิชาที่ผู้ชายจะมาสังสรรค์ดูเกอิชาร่ายรำและเล่นดนตรีค่ะ นอกจากนั้นยังมีบ้านของซามูไรด้วยซึ่งถือเป็นอาชีพที่ร่ำรวยมีฐานะในสมัยนั้น  ปัจจุบันบ้านแถวนี้ถูกปรับปรุงเป็น teahouse ขายชาและขนมหวานเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ใครชอบทานขนมมาแถวนี้ฟินแน่นอนค่ะ(ร้านอาหารมีน้อยมาก) แล้วก็มีร้านขายของที่ระลึกซึ่งส่วนมากก็จะเป็นพวก hand craft ต่าง ๆ และยังมีบ้านเกอิชาเหลืออยู่บ้างค่ะ

เดินไปอีกนิดข้าง ๆ หมู่บ้านนี่เองก็จะเจอกับแม่น้ำ Asano ค่ะ  ใครชอบดอกซากุระนี่เป็นอีกแห่งนึงที่เหมาะมาชมซากุระบานมาก ๆ ค่ะเพราะริมแม่น้ำนี้เรียงรายไปด้วยต้นซากุระเต็มไปหมด  เสียดายมากที่ตอนพัดไปยังไม่บานไม่งั้นคงจะฟินมากและสวยมาก ๆ ค่ะ

JAL Kanazawa Japan

JAL Kanazawa Japan

JAL Kanazawa Japan

ไม่ไกลจาก Hagashi Chaya District มีอีกที่นึงที่มาถึงเมืองนี้แล้วต้องแวะถ่ายรูปนั่นก็คือ Kanazawa Station ค่ะ อาจจะเป็นเพราะดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตาเลยมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาถ่ายรูปที่หน้าสถานีนี้ค่ะ

Where To Eat

นอกจากเรื่องเที่ยวแล้วเรื่องกินนี่แหละค่ะเรื่องใหญ่ของพัด  ก่อนมาพยายามเสิร์ชหารีวิวร้านอาหารแต่แทบไม่มีเลยค่ะ  เมืองนี้ยังเป็นที่ ๆ ต่างชาติรู้จักน้อยมากแทบหารีวิวไม่เจอ  อันที่เจอก็ดูไม่ใช่ทางของ PATSAMON eat well, travel with style เอาซะเลย555 ก่อนมาก็เลยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ จะรอดไม่รอด แต่พอมาถึงแล้วก็เซอร์ไพรซ์อยู่เหมือนกันที่มีร้านชิค ๆ น่ารัก ๆ ไม่เหมือนที่เราไปดูคนอื่นรีวิวมาเลย ขอรีบออกตัวก่อนว่าหลาย ๆ ร้านไม่มีชื่อร้านนะคะเพราะอ่านไม่ออกค่ะมีแต่ภาษาญี่ปุ่น ขอความกรุณาอย่าเกรี้ยวกราดใส่กันเลย ดูรูปหน้าร้านเอาเนอะๆๆๆ ถ่ายมาให้ดูแล้วค่ะจะได้ตามไปทานกันได้

ว่าแล้วก็มาเริ่มกันที่ของดังอย่างปลาดิบกันก่อนค่ะ  พัดจะพาไปตะลุย“ตลาดปลา”กันว่ามีร้านไหนเด็ดบ้าง  ร้านแรกที่พัดไปทานเป็นร้านข้าวหน้าปลาดิบเข้าไปแบบมั่ว ๆ เลยเพราะเห็นคนต่อคิวเยอะเราก็มโนเองว่าคงเป็นร้านดัง  ชื่อร้าน 刺身屋 (Sashimiya) จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าดังไม่ดัง555 เห็นหน้าร้านมีข้าวหน้าไข่หอยเม่นของโปรดก็เลยมีแรงดึงดูดให้ไปยื่นต่อแถว  ร้านเค้าก็จะดูแบบ traditional มาก ๆ มีที่นั่งไม่เยอะ อาหารจัดว่าดีอยู่ค่ะสดอร่อย uni ไม่คาวราคาไม่แรง ข้าวหน้า 3 ไข่ของพัด (uni, ikura, tamago) จานนี้ 3000 yen ค่ะ

Kanazawa Omicho Fish Market

Kanazawa Omicho Fish Market

Kanazawa Omicho Fish Market

ร้านต่อมา あまつぼ (Amatsubo) ขายอาหารแบบเดียวกันกับร้านแรกเปี๊ยบราคาสูงกว่าจิสนึงแต่พัดว่าคุณภาพดีกว่าอร่อยกว่า uni จัดว่าดีมากหวานฉ่ำ ไข่ปลาแซลมอนก็ดีงาม แนะนำร้านนี้มากกว่าค่ะ

Kanazawa Omicho Fish Market

Kanazawa Omicho Fish Market

Kanazawa Omicho Fish Market

Kanazawa Omicho Fish Market

Kanazawa Omicho Fish Market

ร้านต่อมาขอสารภาพความอ๊องความเอ๋อไม่รู้เอาความมั่นใจมาจากไหนว่านี่คือร้านข้าวแกงกะหรี่ที่เสิร์ชหามา ไปนั่งต่อคิวอยู่นานกว่าจะได้ทานมารู้ตัวว่ามาผิดร้านก็ตอนที่เปิดเมนูดูแล้วหาข้าวแกงกะหรี่ไม่เจอ เจอแต่ซูชิ  มันคือร้านซูชิจานหมุนจร้าาาาาา บอกตามตรงว่าไม่สังเกตเห็นสายพานซูชิที่กำลังหมุนตรงหน้าเลย555 เอาน่าแต่ก็เป็นร้านดังที่คนมาทานเยอะมาก ๆ ค่ะ รสชาติและคุณภาพก็กลาง ๆ สั่ง chutoro มาก็จัดว่าดีอยู่ค่ะ

หลังจากทานจนอิ่มก็มาตามล่าหาความจริงต่อว่าเราคิดได้ไงว่าคือร้านข้างแกงกะหรี่ พอเดินออกมาดูก็อ๋ออออออ มันมีป้ายร้านข้าวแกงกะหรี่ที่เราอยากทานอยู่ข้างหน้าแต่เป็นป้ายบอกทางว่าให้ลงไปชั้นใต้ดินนี่เอง #ไหวมั้ยคนดี

Kanazawa Omicho Fish Market

Kanazawa Omicho Fish Market

Kanazawa Omicho Fish Market

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเราก็ต้องมาทานข้าวแกงกะหรี่นี้ให้ได้ไม่ให้เสียทีที่ไปผิดร้านค่ะ  ตกเย็นพัดเลยมากดตู้สั่งข้าวแกงกะหรี่ที่มีแต่ภาษาญี่ปุ่นล้วน กะสั่งหน้าหมูทอดแต่ได้ไก่ทอดแทนเพราะในรูปแยกไม่ออกอันไหนไก่อันไหนหมู อ่านญี่ปุ่นก็ไม่ออก โอ้ยยยยยย แต่เพื่อนที่มาด้วยกันได้หมูพัดเลยชิมทั้งสองแบบพัดว่าหมูทอดอร่อยกว่าค่ะ  ที่ร้านนี้ข้าวเค้าจะอยู่ด้านล่าง ให้ข้าวไม่เยอะไม่เหมือนร้านที่ไทยนะคะจานค่อนข้างเล็กแต่สำหรับพัดอิ่มกำลังดี ตัวแกงเค้าก็ราดมาไม่เยอะ รสชาติดีเลยพัดชอบนะ ลืมบอกว่าชื่อร้าน  “Champion Curry” อยู่ชั้นใต้ดินของตลาดปลาค่ะ

Kanazawa Omicho Fish Market

Kanazawa Omicho Fish Market

อ่ะเดี๋ยวจะหาว่าใจคอจะไม่ไปทานที่อื่นนอกจากตลาดปลาเลยใช่มั้ยหลังจากนี้จะเป็นร้านชิค ๆ บ้างแล้วค่ะ  ร้านแรกเห็นแล้วเอะอะโวยวายนึกไม่ถึงว่าเมืองนี้จะมีร้านอะไรแบบนี้อยู่ด้วย มันช่างมีความเก๋ มินิมอล และความเซนแบบญี่ปุ่น ๆ คละเคล้ากันอยู่มันคืออาหารอะไรไม่รู้แต่ความชิคนี้เราต้องเข้าไปสัมผัสค่ะ ร้านนี้ชื่อร้าน “Coil” คิดในใจว่าร้านเทมปุระแต่ความจริงคือร้านข้าวห่อสาหร่ายแบบ DIY ที่เราจะต้องเลือกไส้เอง ม้วนเอง หน้าตาออกมายังไงคงไม่ต้องบรรยายามาก ใส้ทะลักเละสิคะคุณ ในส่วนของรสชาติก็ธรรมดา ถือว่ามาเสพความชิคค่ะ

ต่อมาที่ห้างเดียวกันก็มีร้านขนมจุ๊บุจิ๊บิคิวท์ ๆ อยู่ด้วยชื่อร้าน “Tarte Tarte Tarte Du Bon Temps” ขนมอร่อย กาแฟดี เหมาะสำหรับวัยใสอย่างเรามากทีเดียว

Tarte Tarte Tarte Du Bon Temps Kanazawa

Tarte Tarte Tarte Du Bon Temps Kanazawa

ยังไม่หมดกับห้างนี้ค่ะมี cafe เก๋ ๆ ซึ่งเป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่งในเมืองนี้ ร้าน “Warutsu” เค้าขาย waffle กับกาแฟค่ะ พัดสั่งวอฟเฟิลมะม่วงมาจัดว่าดีทีเดียว กาแฟก็โออยู่ค่ะ

Warutsu Kanazawa

Processed with VSCO with a4 preset

Warutsu Kanazawa

พาไปเที่ยวหมู่บ้านโบราณไปแล้วก็มีร้านขนมจะมาแนะนำ จริง ๆ ขอสารภาพว่าเข้าไปทานร้านนี้เพราะเห็นว่าไม่ต้องต่อคิวมีอีกร้านน่าทานมากแต่คิวยาวม๊ากกกกก  金澤しつらえ (Kanazawa Shitsurae) ร้านนี้เดิมเคยเป็นบ้านซามูไรมาก่อนค่ะแต่ตอนนี้เป็นร้านขายของ handcraft และมีร้านของหวานซ่อนอยู่ด้วย  บรรยากาศข้างในคือดีเลยญี่ปุ๊นญี่ปุ่น ขนมอร่อย parfait ของร้านนี้เค้าใช้ไอศครีมของ cremia เป็นไอศครีมที่พัดชอบมากถึงมากที่สุด ชาเขียวก็เข้มข้น แนะนำเลยค่ะร้านนี้Kanazawa Shitsurae

Kanazawa Shitsurae

Kanazawa Shitsurae

Kanazawa Shitsurae

กลับมาที่ของคาวกันบ้าง มาญี่ปุ่นหลายวันแล้วยังไม่ได้ทานเนื้อเลยเหมือนมาไม่ถึงรู้สึกขาดบางสิ่งบางอย่างไป และแล้วสวรรค์ก็บันดาลให้พัดบังเอิญเจอร้านเนื้อย่างอยู่ใกล้โรงแรมมากกกกก ร้าน 牛や 榮太郎 (Gyuya Eitaro) บรรยากาศดีเนื้อดี โอ๊ยฟิน จานที่ไม่อยากให้พลาดเลยคือ sukiyaki เป็นเนื้อสไลด์บาง ๆ ราดน้ำซอสสุกี้มาแบบชุ่มฉ่ำ ย่างพอสุกจิ้มกับไข่ดิบ บอกได้คำเดียวว่าพีคค่ะ

Gyuya Eitaro Kanazawa

Gyuya Eitaro Kanazawa

Gyuya Eitaro Kanazawa

Gyuya Eitaro Kanazawa

Gyuya Eitaro Kanazawa

สุดท้ายท้ายสุดที่ไม่ได้ทานเหมือนมาไม่ถึง Kanazawa ก็คือไอติมแปะทองที่มีขายทุกที่ในเมืองนี้จริง ๆ ค่ะไปไหนก็เจอ แต่วันนี้พัดทานที่หน้าสวน Kenroku-en ค่ะเป็นไอศครีมของ Cremia ที่พัดชอบมาก ๆ แปะทองให้มีกิมมิกตามสตอรี่ของเมืองและเพิ่มมูลค่า ทางเราก็ลืมเล่าไปว่าเมืองนี้เนี่ยแต่เก่าก่อนเค้าโด่งดังเรื่องหัตถกรรมทำทองคำเปลวอะไรพวกนี้  อาหารและขนมที่เมืองนี้อะไร ๆ ก็จะต้องมีทองโรยมาบ้างแปะมาบ้าง

๋JAL

JAL

Transportation

จริง ๆ ทริปนี้พัดเช่ารถพร้อมคนขับค่ะเพราะว่ามากันหลายคน แต่สำหรับใครที่ไม่อยากเช่ารถการเดินทางที่นี่ก็ดูสะดวกนะคะแล้วสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เนี่ยอยู่ไม่ไกลกันเลยเดินไปได้อยู่ค่ะ

สำหรับใครที่อยากหาที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่คนยังไม่เยอะแยะวุ่นวาย ได้สัมผัสทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิมของเค้า  ได้ใช้ชีวิต slow life พักผ่อนเดินเล่นชิลล์ ๆ พัดคิดว่า Kanazawa ก็เป็นอีกเมืองนึงที่เสน่ห์ มาแล้วรู้สึกสบาย ๆ ไม่ต้องแก่งแย่งไม่ต้องเร่งรีบ สถานที่เที่ยวก็ยังมีนักท่องเที่ยวไม่เยอะ แถมยังเดินทางสะดวกบินมาลงเมืองนี้ได้เลยอีกต่างหากด้วยค่ะ

#JapanAirlines #FlyJAL #DiscoverYourColourWithJAL

www.th.jal.co.jp/thl/th/

You may also like