ถ้าพูดถึงโรงแรมพุทธรักษาหัวหินหลาย ๆ คนคงจะรู้จักหรือได้ยินชื่อกันมาแล้วเพราะเค้าเปิดมานานเกือบ 10 ปีแล้วค่ะ สำหรับพรรษเรียกว่าเป็น boutique hotel รุ่นแรก ๆ ของหัวหินเลยก็ว่าได้ค่ะ แต่ด้วยความที่เค้าตกแต่งเรียบง่าย เก๋ แต่ดูอบอุ่นทำให้กลับมาพักอยู่หลายครั้ง วันนี้ทางโรงแรมเชิญมาพักก็เลยได้โอกาสมารื้อพื้นความทรงจำเก่า ๆ ที่นี่ค่ะ
พรรษว่าเสน่ห์อย่างนึงของที่นี่ก็คือความร่มรื่นค่ะ ด้วยความที่เค้ามีต้นไม้สูงทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติและรู้สึกเหมือนได้มา retreat และเค้ามีจำนวนห้องพักไม่มากทำให้ทุกครั้งที่มาจะรู้สึกสงบและเป็นส่วนตัวค่ะ
Dining
สำหรับพรรษเวลานึกถึงพุทธรักษาภาพแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเลยก็คือร้านอาหารและบาร์ริมทะเลของที่นี่ค่ะ เพราะบรรยากศดีมาก ๆ พรรษชอบมานั่งชิลล์ที่ daybed ตอนเย็น ๆ ค่ะ และมาดินเนอร์ตรงโซนห้องอาหารค่ะ ได้ฟีลเหมือนอยู่แถบ Medditerrenean เลยค่ะ
อาหารก็มีทั้งอาหารไทยและ European ค่ะ รสชาติกลาง ๆ จานที่พรรษชอบเป็นพิเศษก็คือแกงเผ็ดเป็ดย่างค่ะอร่อยมาก
ส่วนอาหารเช้าเค้าเสิร์ฟที่ห้องอาหารนี้ด้วยเหมือนกันค่ะ ใครชอบวิวทะเลก็ได้นั่งรับลมทะเลกันแบบจุก ๆ ไปเลย
ส่วนใครที่กลัวร้อนเพราะตรงนี้เป็นแบบ outdoor ทั้งหมดทางรีสอร์ทเค้าก็มีห้องอาหารอีกห้องที่บรรยาการน่ารักไปคนละแบบ เสิร์ฟอาหารเช้าตรงนั้นด้วยเหมือนกันค่ะ
Villa
ในส่วนของห้องพักตกแต่งเรียบง่ายและอบอุ่นด้วยวัสดุธรรมชาติ มารอบนี้พรรษพักที่ห้อง Pool Villa ค่ะ มีสระว่ายน้ำยาวขนาบวิลล่าของเรา และเก๋ตรงที่มีอ่าง jacuzzi อยู่ด้านนอกห้องน้ำติดกับสระว่ายน้ำด้วย ทำให้เวลาแช่น้ำเพลินกว่าปกติมากค่ะ ก็เลยชวนคุณแม่มาจิบไวน์แช่น้ำอุ่นด้วยกันซะเลย
Spa
เห็นเค้าเป็นรีสอร์ทเล็ก ๆ แบบนี้แต่มีสปาด้วยนะคะ ซึ่งห้องทรีทเมนท์ของเค้าก็ครบเครื่องไม่แพ้สปาในโรงแรมใหญ่ ๆ เลยค่ะน่าจะถูกใจคนที่ชอบสปากันอยู่ค่ะ
ข้อเสียของโรงแรมนี้ก็มีอยู่บ้างค่ะ ก็คือทางโรงแรมแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งก็คือฝั่งติดทะเลกับฝั่งที่ไม่ติดทะเล โดยจะมีถนนสาธารณะกั้นระหว่าง 2 ฝั่ง ใครที่พักฝั่งไม่ติดทะเลก็จะลำบากหน่อยเวลาที่อยากมานั่งชิลริมทะเลหรือมาเล่นน้ำที่สระฝั่งนี้ค่ะเพราะต้องเดินข้ามถนนมา หรือเวลามากับเพื่อนแล้วได้ห้องพักคนละฝั่งก็อาจจะไม่สะดวกนัก ส่วนตัวพรรษยังไม่เคยไปพักฝั่งไม่ติดทะเลเพราะเวลามาทะเลก็จะอยากเห็นวิวค่ะก็เลยจองฝั่งนี้ตลอด(ฝั่งติดทะเลจะมีแต่วิลล่านะคะส่วนห้องธรรมดาและสปาจะอยู่อีกฝั่งค่ะ)