วันนี้พรรษจะพาไป destination ที่ไม่ค่อยเห็นคนไทยไปกันเท่าไหร่ค่ะ  แม้แต่ตัวพรรษเองที่ได้ยินกิติศัพท์ของความสวยของเกาะลันตามาตั้งแต่เด็กแต่ก็ยังไม่เคยได้ไปซะที  ช่วงนี้ออกนอกประเทศไม่ได้เลยได้โอกาสไปเที่ยวที่ใหม่ ๆ ในประเทศที่คิดไว้มานานอย่าง “พิมาลัย เกาะลันตา” ซะทีค่ะ

จริง ๆ ที่พิมาลัยเนี่ยเค้าโด่งดังในหมู่ชาวต่างชาติมานานแล้วนะคะแต่คนไทยเราไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ อาจจะเพราะด้วย location ที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จักมากนักค่ะ(แม้แต่ผู้ร่วมทริปของพรรษเองยังไม่รู้เลยว่าเกาะลันตาอยู่ที่ไหน)

อันดับแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือเรื่องของการบริการที่นี่พรรษประทับใจในการอบรมพนักงานทุกคนที่นี่มาก ๆ ค่ะ ตั้งแต่รปภ. คนสวน พนักงานเสิร์ฟ reception ไปจนถึงGM ทุกคนคือ service-mind แบบแน่นมากกกกกกก ยิ้มแย้มทักทาย เสนอตัวให้ความช่วยเหลือทุกอย่างโดยที่บางครั้งเราก็ไม่ได้ร้องขอ แค่จะถามว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหนพนักงานที่กวาดพื้นอยู่หยุดกวาดแล้วเดินไปส่งเลยค่ะ เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าเรื่องนี้เค้าทำได้ดีมากเกินความคาดหมายค่ะ  ปรบมือให้รัว ๆ (โรงแรม 5 ดาวในเมืองหลาย ๆ ที่ยังทำไม่ได้แบบนี้เลยค่ะพูดเลย)

Swimming Pool

ขอพามาจุดชมวิวที่เด็ดที่สุดของโรงแรมก่อนเลยค่ะก็คือที่สระว่ายน้ำ ตรงนี้มีหอระฆังที่ถือเป็น signature ของพิมาลัยเลยก็ว่าได้ค่ะ จากตรงนี้จะมองลงไปเห็นทะเลและหาดทรายด้านล่าง พรรษมานั่งดูวิวตรงนี้หลายรอบมาก ๆ เพราะสวยจนดูได้ไม่เบื่อเลยค่ะ พรรษบอกเลยว่ามาถ่ายรูปตรงนี้ปังปุริเย่แน่นอน!

Dining

ใกล้ ๆ กันกับสระว่ายน้ำก็คือห้องอาหาร”Seven Seas“อยู่ด้านบนของสระว่ายน้ำค่ะ ตรงนี้วิวสวยสะพรึงมาก

ในส่วนของอาหารเช้าเค้าก็เสิร์ฟที่ห้องอาหารนี้เหมือนกันค่ะ วิวดีจนพรรษยอมตื่นมาทานอาหารทุกวัน ปกติชอบขี้เกียจบางทีก็สั่งอาหารเช้าไปทานที่ห้องแต่มาที่นี่บอกเลยว่ายอมมมมมมม (ช่วงที่พรรษไปห้องอาหารนี้ไม่เปิดช่วงอาหารกลางวันและเย็นนะคะ) แถมอาหารเช้าที่พิมาลัยคือดีมากค่ะทุกคนนน ตกแต่งจัดมาอย่างสวยงาม มีอาหารให้เลือกเยอะมาก ๆ จะสั่งในเมนูหรือจะไปตักเองที่ไลน์บุฟเฟ่ต์ก็ได้เหมือนกันค่ะ วันที่พรรษไปมีก๋วยเตี๋ยวเป็ดอร่อยมาก ส่วนในเมนูจานที่พรรษชอบก็มี French Toast กับเกี๊ยวซ่าค่ะ

ส่วนห้องอาหารอีกห้องชื่อ “Rak Talay” อยู่ริมหาดติดทะเลเลยค่ะ บรรยากาศจะคนละแบบเลย ตรงนี้บรรยากาศจะมีความสมัยใหม่และวัยรุ่นกว่า เสิร์ฟทั้งอาหารไทยและนานาชาติเปิดช่วงอาหารกลางวันและเย็นค่ะ มีบาร์ด้วยค่ะเก๋เชียว

ส่วนคืนสุดท้ายที่พักพรรษสั่งอาหารไปทานที่ห้องค่ะ เพราะพรรษพักวิลล่า 3 ห้องนอน มีห้องนั่งเล่นและห้องทานข้าวให้ด้วยพรรษเลยทานที่ห้องกับครอบครัวแบบพร้อมหน้า  อาหาร room service ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวค่ะ พรรษว่าเมนูหลากหลายกว่าที่ห้องอาหารนะคะ วันนี้เลยจัดเต็มทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง ทางโรงแรมเค้ามีเซ็ตอาหารทะเลแบบไทยด้วยค่ะพรรษเลยสั่งมา 1 set จะมีใบเหลียงผัดไข่ใส่กุ้งเสียบ ต้มยำกุ้ง น้ำพริกกุ้งสด กุ้งผัดซอสมะขาม ปูนิ่มทอด ปลากระพงนึ่งมะนาว ฉู่ฉี่ปลาแซลมอน เซ็ตนี้ถูกใจครอบครัวพรรษมากค่ะ ของหวานที่พรรษเลิฟมากของที่นี่ก็คือ Pavlova ค่ะสั่งซ้ำหลายรอบเลยค่ะ

Accommodation 

ห้องที่พรรษพักครั้งนี้เป็น 3 Bedrooms Villa ค่ะ อันดับแรกที่ถูกใจคือห้องทุกห้องแยกกันเป็นสัดส่วนมาก ๆ ค่ะ และแต่ละห้องขนาดใกล้เคียงกัน ไม่ต้องตีกันค่ะว่าใครจะได้ห้องใหญ่กว่า555 และแต่ละห้องแยกกันชัดเจนทำให้ทุกคนมีความเป็นส่วนตัวสูงมากค่ะและมีระเบียงส่วนตัวกันทุกคน แต่มีพื้นที่ส่วนกลางก็คือสระว่ายน้ำ ศาลา ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร และครัว(แบบจริงจังทำอาหารได้จริง ๆ ) อยู่ตรงกลางค่ะ เหมาะมาก ๆ สำหรับครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ที่มากันเป็นคู่

ในส่วนของห้องพักอันนี้พรรษต้องขอพูดตามความรู้สึกจริงว่าการตกแต่งธรรมดาไปหน่อยดีเทลล์ไม่แน่น ด้วยความที่เค้าเปิดมานานแล้วสไตล์การตกแต่งห้องก็จะค่อนข้างโบราณ ส่วนห้องน้ำกว้างมากและครบครันมากค่ะทั้งอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ มี shower แยกมองเห็นวิวทะเลทั้ง 2 ส่วน มี his & her ดีงามค่ะ

การตกแต่งอาจจะไม่ได้สวยแบบหวือหวาแต่โดยรวมแล้วพักสบายมาก ทั้งที่นอนหมอนผ้านวมสัมผัสได้ว่าคุณภาพดี หลับสบายสุด ๆ ค่ะ ที่สำคัญคือเรื่องความสะอาดและการ maintenance เค้ายืนหนึ่งเลยค่ะ ของทุกอย่างในห้องพักคือสภาพ 100% ไม่มีอะไรชำรุดหรือใช้งานได้ไม่สะดวกเลยค่ะ เรื่องนี้ต้องยอมเค้าจริง ๆ (บางโรงแรมเปิดใหม่ตกแต่งสวยมากแต่ก๊อกน้ำไหลไม่แรงบ้าง น้ำไม่อุ่นบ้าง ชักโครกกดไม่ลงบ้าง เป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พรรษว่ามีผลกับความรู้สึกมากค่ะ)

Spa

เป็นอะไรที่มาพิมาลัยแล้วพรรษแนะนำว่าควรไปมากค่ะ บรรยากาศดีมาก ห้องทรีทเมนท์ขนาดใหญ่ ตกแต่งสวย therapist ก็นวดดีมาก ๆ ค่ะ ขอโทษจริง ๆ ที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูพรรษไปตอนมืดแล้วก็เลยไม่ได้เก็บภาพมาฝากกันค่ะ ขออนุญาติเอารูปจากโรงแรมมาแปะให้ดูนิดนึงละกัน

สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวเกาะลันตาพรรษคิดว่าที่พิมาลัยเป็นตัวเลือกที่ดีมากและน่าจะดีที่สุดแล้วค่ะบนเกาะนี้ จริง ๆ ที่กระบี่สามารถนั่งเรือออกไปเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ ได้เยอะเลยค่ะใครที่มาหลาย ๆ วันพรรษอยากแนะนำให้ไปเกาะห้องสวยมาก ๆ ค่ะ พรรษเคยไปมาเมื่อคราวก่อนที่มากระบี่แต่รอบนี้เน้นพักผ่อนชิลล์ ๆ ก็เลยไม่ได้มี activity อะไรมากค่ะ

ส่วนใครที่กลัวเบื่ออาหารโรงแรมสามารถเรียกรถแท็กซี่ของโรงแรมออกไปทานอาหารข้างนอกได้นะคะ พรรษเองก็มีออกไปทานข้างนอกรอบนึงค่ะ แถมรีวิวร้านอาหารให้ด้วยเลยละกัน ร้าน Drunken Sailor อยู่ห่างจากโรงแรมไปประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ บรรยากาศน่ารัก ๆ อารมณ์ฝรั่ง backpacker หนีมาอยู่ไทย ที่สำคัญอาหารที่สั่งมาอร่อยทุกอย่างค่ะ พนักงานก็น่ารัก บริการแบบบ้าน ๆ อบอุ่น ๆ

Transportation

การเดินทางมาที่นี่เราจะต้องบินมาลงที่สนามบินกระบี่ค่ะ ทางโรงแรมจะมีรถมารับที่สนามบิน นั่งรถ 50 นาทีไปยังท่าเรือเพื่อข้ามไปเกาะลันตา ใช้เวลานั่งเรือข้ามฝั่งแค่  5 นาทีค่ะ จากนั้นนั่งรถต่ออีก 45 นาทีก็ถึงโรงแรมค่ะ การเดินทางใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะฉะนั้นพรรษแนะนำให้บินไฟลท์เช้าหน่อย อย่างพรรษไฟลท์ 9 โมงเช้ากว่าจะถึงโรงแรมก็บ่ายโมงกว่าแล้วค่ะ  แล้วก็ถ้าไม่อยากเหนื่อยพรรษว่าควรอยู่ที่เกาะอย่างน้อย 3 คืนน่าจะกำลังดีค่ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจสำหรับใครที่กำลังอยากเดินทางมาที่เกาะลันตาได้ไม่มากก็น้อยนะคะ วันนี้ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ค่ะบ๊ายบาย