ตอนเด็ก ๆ ใครถามว่าโตขึ้นพัดอยากเป็นอะไร คำตอบก็คือ “อยากเป็นเจ้าหญิงค่ะ” 555 สงสัยจะดูการ์ตูนดิสนีย์มากไปหน่อยค่ะ แต่โตมาก็ยังไม่หายนะคะ ถึงชีวิตจริงจะเป็นเจ้าหญิงไม่ได้แต่เราก็สามารถไปเที่ยวเมืองที่ทำให้เรามโนว่าเราเป็นเจ้าหญิงได้เหมือนกันค่ะ เมื่อไปฝรั่งเศสพัดเลยอดไม่ได้ที่จะแวะไปเที่ยว “Loire Valley” ค่ะ ที่ ๆ เต็มไปด้วยปราสาทสวย ๆ เหมือนปราสาทดิสนีย์อะไรแบบนั้นเลย ถ้าใครเคยดู Shrek นี่แหละ Far Far Away Land เมืองปราสาทเจ้าหญิง
นอกจากชาโตว์ขนาดใหญ่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้วที่ Loire Valley ก็ยังเต็มไปด้วยชาโตว์ขนาดเล็กที่ปัจจุบันได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรมค่ะ แน่นอนค่ะว่าเมื่อเรามา Loire Valley แล้วเราต้องนอนที่ชาโตว์ค่ะเพราะเรานั้นเป็นสายมโน ความเจ้าหญิงต้องมาเต็ม จะกินจะนอนจะเที่ยวเราต้องเข้าวังค่ะ!!
พัดอยู่ที่ Loire Valley ทั้งหมด 4 วัน 3 คืนค่ะพัดเลือกพักที่ “Domaine de la Tortiniere” ซึ่งเป็นชาโตว์ขนาดไม่ใหญ่มาก มีจำนวนห้องพักไม่มากและมีบริเวณโดยรอบกว้างขวางค่ะ มี้ทั้งสระว่ายน้ำ สวน และที่จอดรถ และที่ชั้นใต้ดินยังมีร้านอาหารด้วยรสชาติดีงามช่วงเย็นมีลูกค้าที่ไม่ใช่แขกของโรงแรมมาทานอาหารมากมายค่ะ ข้อเสียของโรงแรมนี้คือไม่มีลิฟต์ค่ะ เพดานก็สูงมาก ห้องพักพัดอยู่ชั้น 3 กว่าจะขึ้นไปถึงเมื่อยพอควร แต่ว่าที่นี่เค้าบริการระดับโรงแรม 4-5 ดาวค่ะ มีคนยกกระเป๋าขึ้นลงให้ค่ะไม่ต้องห่วง
ที่แรกที่พัดไปเที่ยวก็คือ “Chateau De Chenonceau” จุดเด่นและเอกลักษณ์ของชาโตว์หลังนี้ก็คือสร้างอยู่บนสะพานค่ะ Chateau De Chenonceau ขึ้นชื่อว่าเป็น “The Ladies’ Castle” ค่ะเนื่องจากจากประวัติของปราสาทแห่งนี้เจ้าของเกือบทุกคนล้วนเป็นผู้หญิงค่ะ
ที่นี่มีดราม่าด้วยนะ เรื่องดราม่าในรั้วในวังนี่ขอให้บอกชอบมากตั้งใจอ่านสุด ๆ 555 เริ่มจากKing Henry IIได้ยกปราสาทหลังนี้ให้แก่ Diane de Poitiers ซึ่งเป็นสนมคนโปรดที่ขึ้นชื่อเรื่องความงาม ฉลาดหลักแหลม มีหัวธุรกิจ แล้วยังมีพรสวรรค์และรสนิยมในการออกแบบตกแต่งล้ำเลิศ เดิมประสาทหลังนี้มีเพียงโดมด้านหน้าอยู่ริมน้ำไม่มีส่วนที่เป็นสะพาน นางจึงต่อเติมสร้างสะพานขึ้นบนแม่น้ำCher และยังออกแบบสวนขึ้นมาใหม่ซึ่งถือเป็นสวนที่มีความสวยงามและทันสมัยมาก ๆ ในยุคนั้นค่ะ เมื่อ King Henry II สิ้นพระชนม์ พระมเหสี Catherine de’ Medici จึงบังคับ Diane de Poitiers ให้แลกวังของพระองค์ซึ่งคือ Château Chaumont กับปราสาทแห่งนี้แทน และต่อเติมส่วนสะพานขึ้นไปอีก 2 ชั้นทำเป็นห้องโถงGalleryค่ะ นอกจากนั้นยังตกแต่งสวนให้สวยโดดเด่นมากขึ้น หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนเจ้าของอีกหลายคนซึ่งล้วนเป็นผู้หญิงเกือบทั้งสิ้นค่ะ และในยุคสงครามโลกปราสาทแห่งนี้เคยใช้เป็นโรงพยาบาลอีกด้วยโดยใช้เฉพาะส่วน gallery ทั้ง 2 ชั้นค่ะ
ส่วนตัวแล้วพัดชอบ Chateau De Chenonceau มาก ๆ ถึงจะขนาดไม่ใหญ่อลังการแต่ดูมีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ และมีชีวิตชีวามาก ๆ ตั้งแต่ทางเข้าที่เป็นทางยาว 2 ข้างทางเป็นต้นไม้สูงเรียงรายเป็นระเบียบมองตรงไปเห็นปราสาทอยู่ตรงหน้า ลองนึกถึงสมัยก่อนที่ต้องนั่งรถม้าเข้ามาดูสิค่ะ ต้องรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ แน่ ๆ แล้วยังมีสวนที่ทำเป็นเขาวงกตด้วยค่ะ
ทานอาหารฝรั่งเศสกันมาเยอะมากแล้วมื้อนี้เลยขอเปลี่ยนมาทานอิตาเลี่ยนกันมั่งค่ะ ร้านนี้ที่โรงแรมแนะนำมาชื่อว่า “Trattoria Bella Citta” อาหารก็จะเป็นพวกพิซซ่า พาสต้าค่ะ รสชาติโอเคเลย คนมาทานกันเยอะมาก ๆ ค่ะ
วันต่อมาเราก็ไปเที่ยวปราสาทกันต่อค่ะ แต่ว่าวันนี้เป็นปราสาทของพระราชาค่ะไม่ใช่เหล่าสนมที่ “Chateau de Chambord” ที่วังนี้จึงใหญ่โตสวยงามอลังการมากกกกกกก ในสมัยก่อนพระราชาและเจ้านายนิยมมาสร้างชาโตว์กันที่ Loire Valley เนื่องจากอากาศดีอบอุ่นเหมาะกับมาพักผ่อนล่าสัตว์ ที่ Chateau de Chambord แห่งนี้จึงมีพื้นที่กว้างมากกกกกก เพราะมีป่าล้อมรอบเพื่อใช้ล่าสัตว์ด้วยค่ะ ที่นี่จึงมีรถกอล์ฟให้เช่าเพื่อขับรอบ ๆ ปราสาทและไปดูสัตว์ที่อยู่ในสวนด้านหลังที่เมื่อก่อนใช้ล่าสัตว์ค่ะ ช่วงเทศกาลต่าง ๆ ที่นี่จะมีกิจกรรมและการแสดงจัดขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยว เช่นการแสดงและคลาสเต้นรำแบบสมัยก่อน ดนตรีในสวน อะไรแบบนี้ค่ะ ลองไปดูตารางที่เว็บไซต์ของเค้าได้นะคะ
จากนั้นไปทานอาหารกันค่ะ มื้อนี้เรามาทานกันที่ชาโตว์ค่ะเป็นทั้งโรงแรมและร้านอาหาร สวนที่นี่ก็สวยมากกกก ถึงจะเป็นสวนเล็ก ๆ แต่น่ารักและเต็มไปด้วยสีสัน นั่นก็คือ “Le Choiseul” อาหารก็มาเป็นคอร์ส portion เล็ก ๆ หน้าตาสวยงามตามสไตล์ฝรั่งเศสอีกเช่นเคย อาหารรสชาติดีทุกจาน โดยเฉพาะของหวานพัดชอบมากเป็นพิเศษเพราะสวยรูปจูบหอมอร่อยมากค่ะ
จริง ๆ แล้วที่ Loire Valley มีชาโตว์สวย ๆ น่าไปเยอะม๊ากกกกกกกกกกก แต่เนื่องจากอย่างที่เคยแอบเม้าท์ไปใน Article ปารีสแล้วว่าทริปนี้มากับครอบครัว คุณพ่อคุณแม่พัดเที่ยวได้แค่วันละหนึ่งที่ถ้วนแล้วต้องกลับไปเอนหลังที่โรงแรม555 ที่คิดไว้ว่าจะไปสัก 4-5 วังเป็นอย่างน้อยเลยฝันสลายค่ะ 4 วันได้เที่ยว 2 วัง OMG! T-T ไม่เป็นไรไว้มาใหม่ละกันปลอบใจตัวเอง
Transportation
แนะนำว่าควรขับรถมานะคะเพราะไม่งั้นจะไม่สะดวกต่อการเดินทางไปเที่ยวยังปราสาทต่าง ๆ ค่ะ แต่ละที่อยู่ห่างกันมากและไม่ได้มีระบบขนส่งสาธารณะที่เข้าถึงได้ค่ะ ส่วนการขับรถนั้นก็สะดวกสบายค่ะรถน้อยขับไม่ยากเหมือนในปารีสเลย และทุกที่ก็มีที่จอดรถอย่างพอเพียงค่ะ
สำหรับใครที่ไม่สะดวกจะขับรถจริง ๆ ก็มี Day Tour ขายค่ะเป็น One Day Trip จากปารีสค่ะ มีหลายแบบหลายราคาให้เลือกเลยค่ะ
Where to Stay
ที่ Loire Valley มีชาโตว์ที่ทำเป็นโรงแรมเยอะม๊ากกกกก ราคาก็มีหลายระดับค่ะตั้งแต่หลักไม่กี่พันต่อคืนไปจนถึงหลายหมื่น ซึ่งความสวยงาม การตกแต่ง และบริการก็ต่างกันไปตามราคาค่ะ พัดว่ามาที่นี่จะให้ได้ฟีลต้องพักชาโตว์นี่แหละเหมาะสุดแล้วค่ะ
Where to Eat
ที่ Loire Valley มีร้านอาหารดี ๆ เยอะมาก ร้าน Michelin อยู่ตามชาโตว์ก็หลายร้านแต่ควรจะต้องจองก่อนนะคะ และเช็ควันทำการให้ดีเพราะบางร้านปิดกลางวันบ้าง ปิดวันแปลก ๆ บ้าง เช่นพัดไปแล้วเจอร้านปิดวันอังคารเลยไม่ได้ทานก็มีค่ะ นอกจาก 2 ร้านที่แนะนำไปแล้วที่โรงแรมที่พัดพัก“Domaine de la Tortiniere” ก็อาหารอร่อยนะคะ แล้วในตัวเมืองยังมีร้านอาหารเยอะมากมีร้านอาหารไทยด้วยเผื่อใครเบื่ออาหารฝรั่ง พัดไปทานร้าน “Mao” มาค่ะอร่อยมากไม่คิดว่ามาเมืองเล็ก ๆ แบบนี้แล้วจะเจออาหารไทยอร่อย ๆ แถมร้านยังสวยบรรยากาศดีอีกด้วยค่ะ ขอให้แม่ครัวทำรสชาติไทย ๆ ให้ได้นะคะที่ร้านนี้เค้าน่ารักค่ะ สำหรับใครที่อยากทานอาหารง่าย ๆ ระหว่างวันที่ Chateau de Chambord ก็มีร้านอาหารร้านกาแฟหลายร้านค่ะ ไปเที่ยวแล้วแวะทานเป็นมื้อเที่ยงก็โอเคอยู่นะคะ
อ้อถ้าใครชอบไวน์มาเมืองนี้จะต้องถูกใจและฟินมากเพราะมีไร่องุ่นไร่ไวน์ แล้วก็คอร์สอาหารที่มี Wine Pairing, Wine Tasting หลายที่เลยค่ะ
Weather & What to Wear
พัดไปช่วงเดือนตุลาคมค่ะอากาศกำลังสบาย ๆ ประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส ใส่แค่ heat-tech กับ sweater ก็เอาอยู่ละค่ะ เนื่องจากว่าช่วงนี้มีฝนอยู่บ้างแล้วต้องเดินตามพื้นดินพื้นหญ้า(ที่มีความแฉะ)ไม่แนะนำให้ใส่รองเท้าที่ต้องทะนุถนอมหรือโดนน้ำไม่ได้ค่ะ