Hallstatt หมู่บ้านที่ติดอันดับเมืองสุดโรแมนติกแทบทุกสำนัก พัดเองก็เซฟรูปและข้อมูลเก็บไว้เป็นหนึ่งใน destination ที่ต้องมาให้ได้ในชีวิตนี้ แม้ว่าจะวางแผนแล้วล่มมาหลายต่อหลายปีที่ผ่านก็ไม่ล้มเลิกความพยายามค่ะ ในที่สุดเราก็มาจนได้!
Hallstatt เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ริมทะเลสาบ Hallstätter See ซึ่งอยู่ในเขตภูมิภาค Salzkammergut ของประเทศออสเตรียค่ะ เอกลักษณ์ของหมู่บ้านนี้ก็คือบ้านและอาคารที่เรียงรายอยู่ริมทะสาบดูกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างสวยงาม เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ใครได้ไปก็สัมผัสได้ถึงความชนบทและอากาศที่บริสุทธิ์ มีเป็ดห่านว่ายอยู่ในทะเลสาบ น้ำก็สะอาดมาก และอีกอย่างนึงก็คือมีน้ำตกจากภูเขาตกลงมากลางหมู่บ้านค่ะ
ตอนแรกไม่คิดว่า Hallstatt จะเล็กขนาดนี้ นี่ตั้งใจมาอยู่ 3 วัน 2 คืนเลย แต่เดินชั่วโมงเดียวก็ทั่วหมู่บ้านแล้วค่ะถือเป็นหมู่บ้านที่เล็กมากจริง ๆ ค่ะ ตอนแรกบอกเลยว่าคาดหวังกับที่นี่ไว้เยอะ(สงสัยดูรูปเยอะไป555) ของจริงก็สวยแต่พัดไม่ได้ประทับใจขนาดนั้น ไม่รู้สึกว่าอยากกลับมาอีกครั้ง ทัวร์จีน ทัวร์ไทย และคนไทยเยอะมากจริง ๆ นี่เดิน ๆ อยู่นึกว่าอยู่จตุจักร555
เวลาที่เราจะได้ซึมซับบรรยากาศของ Hallstatt จริง ๆ ก็คือช่วงหัวค่ำค่ะ หลัง 6 โมงเย็นที่บรรดากรุ๊บทัวร์ที่มา day tour ได้กลับกันไปเกือบหมดแล้ว เมืองก็จะเงียบสงบขึ้นมากทีเดียว ค่อยยังชั่ว ค่อยรู้สึกว่ามาถึง Hallstatt หน่อยค่ะ
วันแรกพัดพักที่ Hallstatt Hideaway ค่ะ เป็นเหมือน service-apartment จดจ้องที่นี่ไว้หลายปีละ พอถึงเวลาจะจองดันเต็มพัดเลยได้พักที่นี่แค่คืนเดียว ส่วนอีกคืนต้องย้ายโรงแรมค่ะ
ห้องที่พัดพักเป็นห้อง Penthouse ค่ะอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร เป็นห้องแบบ duplex ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องทานอาหารและครัว ส่วนด้านบนเป็นห้องนอน 2 ห้องค่ะ มีระเบียงส่วนตัวมองเห็นทะเลสาบและมีอ่าง Jacuzzi ที่ระเบียงด้วยค่ะ ดีงาม
สำหรับอาหารเช้าที่นี่เค้าไม่มีห้องอาหารแต่สามารถสั่งล่วงหน้าได้ค่ะก็จะมาส่งให้ถึงห้องเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วพัดเลยสั่งอาหารเช้ามาทานที่ระเบียง คือดีมากกกก แม้ว่าอาหารจะไม่ค่อยอร่อยก็ตามแต่บรรยากาศมันใช่ ใครจะมาพักที่นี่พัดแนะนำว่าซื้ออาหารมาทำเองเลยค่ะ เครื่องครัวจานชามเค้ามีให้พร้อม supermarket ก็อยู่ไม่ไกลตรงทางเข้าหมู่บ้านนี่เองเดินไปได้สบ๊าย
ในส่วนของมื้อเย็นพัดก็ไปทานที่โรงแรม Heritage Hallstatt เป็นโรงแรมที่เราจะย้ายไปพักวันรุ่งขึ้นด้วยค่ะ จริง ๆ ตั้งใจจะไปทานอีกร้านแต่มันปิด จะบอกว่าช่วงเย็นร้านอาหารเปิดค่อนข้างน้อยนะคะตัวเลือกมีไม่มาก สำหรับอาหารที่ร้านนี้พัดว่าก็กลาง ๆ ใช้ได้ พัดสั่ง garlic soup, สลัด, Risotto แล้วก็อาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้ค่ะซึ่งก็คือปลาเทราท์ย่าง ใช้ได้อยู่นะย่างมาดีเนื้อ juicy มากค่ะ แต่แถวนี้อาหารก็จะไม่รสชาติจัดจ้านเท่าไหร่ไม่น่าถูกใจคนไทยค่ะ
วันต่อมาพัดก็ลากกระเป๋าจาก Hallstatt Hideaway มายังโรงแรม Heritage Hallstatt ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก ที่โรงแรมนี้ห้องพักมีระเบียงหันหน้าไปยังทะเลสาบเหมือนกันค่ะ แต่ระเบียงเค้าก็จะเล็ก ๆ หน่อย ห้องพักและโรงแรมก็จะตกแต่งแนวโรงแรมสมัยก่อน สไตล์โรงแรมมาตรฐานทั่ว ๆ ไป ถือว่าโอเคอยู่ค่ะ โรงแรมนี้เป็นอีกโรงแรมที่รีวิวดีงามอันดับต้น ๆ ของ Hallstatt ค่ะ แต่พัดชอบ Hallstatt Hideaway มากกว่านะ
เนื่องจากว่า Hallstatt เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องเหมืองเกลือ มีเหมืองเกลือขนาดใหญ่อายุหลายร้อยปีอยู่บนเขาวันนี้เราก็เลยจะขึ้นไปซะหน่อย เพราะนอกจากเหมืองแล้วยังมีจุดชมวิวเด็ดอยู่ด้านบนด้วยค่ะ
การจะขึ้นไปที่เหมืองเกลือเราต้องไปขึ้นกระเช้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าหมุ่บ้านมากนัก ติดกับที่จอดรถ P2 ของหมู่บ้านค่ะ เราสามารถเลือกซื้อเฉพาะตั๋วขึ้นลงอย่างเดียวหรือซื้อเป็นpackageทัวร์เหมืองเกลือด้วยก็ได้ แต่เนื่องจากคนที่มาด้วยกลัวที่แคบไม่ยอมเข้าเหมืองเกลือพัดก็เลยอดไปด้วย
พอขึ้นไปถึงด้านบนก็ขึ้นลิฟต์ต่อไปยัง sky-walk เพื่อเดินต่อไปที่เหมืองและจุดชมวิวค่ะ จุดชมวิวที่นี่เค้าก็เก๋ไก๋ทำเป็นมุม 3 เหลี่ยมยื่นออกไปที่ทะเลสาบ และตรงนี้ยังมีร้านอาหารวิวดี๊ดีที่พัดตั้งใจจะมาทานอาหารกลางวันด้วยค่ะ
หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปไปแล้วเราก็มาทานอาหารกันที่ร้าน “Rudolfsturm” ร้านนี้เปิดแค่ช่วงกลางวันนะคะ จองโต๊ะก็ไม่ได้ต้องมายืนรอค่ะ ถามว่าอาหารอร่อยมั้ยก็งั้น ๆ ซุปรสชาติโอเคแต่พาสต้าคือแย่ค่ะคิดซะว่ามานั่งชมวิวละกัน อากาศดีมาก ๆ ถึงแดดจะแรงแต่ลมเย็นสบาย
ตกเย็นแดดไม่แรงแสงสวยก็ได้เวลาถ่ายรูปค่ะ วันนี้พัดเลยไปจุดชมวิวของ Hallstatt ที่ทุกคนต้องไปถ่ายค่ะ เดินเลยโรงแรม Heritage Hallstatt (ถนนด้านหลังโรงแรม)เข้าไปอีกหน่อยก็เจอแล้วค่ะ
จากนั้นเราก็ไปเช่าเรือขับกันในทะเลสาบค่ะ ร้านเช่าเรือก็อยู่ข้าง ๆ โรงแรมนี่เอง ขับเล่นชมวิวซักหนึ่งชั่วโมงก่อนจะได้เวลาหิวแล้วค่อยไปทานอาหารเย็นค่ะ
ในส่วนอาหารเย็นวันนี้ร้านนี้นำเสนอมาก ๆ ก็คือร้านอาหารที่โรงแรม “Hotel Gruner Baum” มีทั้งโซนห้องอาหารและระเบียงด้านนอกริมทะเลสาบ ส่วนของระเบียงจะเปิดถึงเย็น ๆ ไม่เสิร์ฟอาหารเย็นตรงนี้นะคะ พัดเลยมานั่งจิบhot chocolate ชมวิว มีเป็ดห่านว่ายน้ำมาหาเป็นระยะ ๆ แล้วค่อยย้ายเข้าไปทานอาหารเย็นด้านในค่ะ อาหารรสชาติดี(ถือว่าดีสุดในเมืองละ555) พนักงานก็บริการดีค่ะ
Transportation and Car Park
ใครที่กำลังจะมา Hallstatt ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญมากที่ควรรู้ค่ะ เราไม่สามารถขับรถเข้าไปในหมู่บ้านได้นะคะ รถทุกคันที่มาต้องนำไปจอดที่จอดรถของหมู่บ้านซึ่งมี 3 จุดค่ะคือ P1, P2, และ P3 การจะเข้าไปในหมู่บ้านทำได้ 2 วิธีคือเดินเข้าไปและนั่งรถ Shuttle Bus ของหมู่บ้านเข้าไปซึ่งจะให้บริการฟรี มีเป็นรอบ ๆ ทุก 30 นาทีค่ะและจะขึ้นได้จากที่จอดรถ P1 เท่านั้น สำหรับที่จอดรถที่ใกล้ทางเข้าหมู่บ้านที่สุดก็คือ P2 ค่ะและยังใกล้กับที่ซื้อตั๋วกระเช้าขึ้นเหมืองเกลืออีกด้วย เพราะฉะนั้นเช็ค location ของโรงแรมที่เราจองไว้ให้ดีก่อนค่ะว่าอยู่ปากทางเข้าหรืออยู่ลึกถ้าอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านจอดที่P2เลยค่ะ แต่โรงแรมที่พัดพักอยู่เกือบในสุดของหมู่บ้านเลยค่ะพัดเลยไปจอดที่ P1 แล้วนั่งรถเข้าไปค่ะ ส่วนขากลับเราสามารถจองรถ shuttle bus กับโรงแรมที่พักได้ค่ะว่าให้มารับกี่โมง
Accommodation
อย่างที่เล่าไปว่าพัดพัก 2 โรงแรม โรงแรมแรก “Hallstatt Hideaway” ห้องสวยวิวดีงามมาก ปลาบปลื้มสุด ๆ แต่ข้อเสียคือเป็นapartmentไม่ใช่โรงแรมเพราะฉะนั้นก็จะไม่มีserviceอะไรมาก ไม่ได้อยู่ติดทางเดินหลักของหมู่บ้านต้องเดินขึ้นเนินไปนิดนึงค่ะและไม่มีลิฟต์ ห้องพักของที่นี่จะอยู่ชั้น 2 และชั้น 3 แต่พนักงานที่รอต้อนรับเราเค้าก็จะช่วยยกกระเป๋านะคะ ส่วนอีกที่คือ “Heritage Hallstatt” ห้องไม่ค่อยสวยเท่าไหร่แต่ก็มีระเบียงมองเห็นทะเลสาบ ข้อดีของที่นี่คือเป็นโรงแรมแบบมาตรฐานเลย มีลิฟต์ มีreception desk มีพนักงานคอยต้อนรับ มีห้องอาหารของโรงแรมเองเปิดทั้งเช้า กลางวัน เย็น และร้านเช่าเรือและท่าเรือก็อยู่หน้าโรงแรมนี่เองค่ะ
เนื่องจากคืนที่สองต้องย้ายโรงแรมพัดเลยจัดการจัดของใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็กตั้งแต่วันแรกสำหรับพักที่นี่ 2 คืนแล้วทิ้งใบใหญ่ไว้ในรถ ซึ่งก็คิดไม่ผิดค่ะ ทำให้คล่องตัวมาก สามารถลากกระเป๋าไปอีกโรงแรมได้สบาย ๆ ตอนยกกระเป๋าขึ้น-ลงที่ “Hallstatt Hideaway” ก็ไม่ลำบากมาก
ที่พักใน Hallstatt ส่วนมากก็จะดัดแปลงจากบ้านและอาคารเก่าค่ะ ใครไม่ชอบขึ้นลงบันไดหรือมากับผู้สูงอายุก็เช็คให้ดีก่อนนะคะว่ามีลิฟต์รึปล่าวค่ะ
Where to Eat
ร้านอาหารที่หมู่บ้านนี้มีน้อยจริง ๆ เนื่องจากหมู่บ้านเล็กมาก แล้วหลาย ๆ ร้านไม่เปิดตอนเย็นค่ะ ตัวเลือกเลยยิ่งมีน้อยลงไปอีกแล้วรสชาติก็ไม่ค่อยจะโอเค สำหรับร้านที่พัดทานแล้วรู้สึกว่าดีสุดแล้วใน Hallstatt ก็คือร้านอาหารในโรงแรม “Hotel Gruner Baum” บรรยากาศดี รสชาติดี บริการก็ดีค่ะ จะมาทานอาหารหรือมานั่งจิบกาแฟยามบ่ายก็เริ่ชทั้งนั้น ส่วนร้าน “Rudolfsturm” ที่อยู่บนเหมืองเกลืออันนั้นวิวเด็ดจริงไรจริงแต่อาหารรสชาติไม่โอเคมาก ๆ บริการก็ไม่ประทับใจแนะนำว่าไปนั่งจิบเบียร์จิบกาแฟชมวิวจะดีกว่าค่ะ
What to Wear
พัดไปช่วงต้นเดือนพฤษภาคมค่ะอากาศดีมากกกกก เย็นสบาย ตอนแรกดู weather forecast บอกว่า 7-15 องศาเซลเซียสก็หวั่น ๆ ว่าจะหนาวที่ไหนได้กลางวันนี่คือร้อนเลยแหละ ใส่เสื้อยืดตัวเดียวเดินได้สบาย ๆ เพราะแดดแรงมากค่ะ ส่วนช่วงเย็นและกลางคืนก็จะเย็นขึ้นค่ะใส่เสื้อ jacket หรือ cardigan เพิ่มอีกตัวก็ไหวอยู่นะคะ ในส่วนของรองเท้าเนื่องจากเมืองเล็กมากเดินไม่เยอะทางเดินก็เรียบดีใส่รองเท้าสวยงามตามท้องเรื่องได้อยู่ค่ะ ใครอยากจะฟาดส้นสูงก็ไม่ว่ากันถ้าทะยานไหวไม่กลัวเมื่อย แต่พัดเวลาไปเที่ยวส่วนมากก็ใส่ flat หรือผ้าใบ แต่ถ้าใครจะขึ้นไปบนเหมืองแนะนำว่าใส่รองเท้าเดินสบาย ๆ ดีกว่าค่ะ เพราะทางเดินเป็นดินแล้วเดินเยอะอยู่ ที่ทางเข้าขายตั๋วเค้าก็ติดป้ายไว้เลยว่า no high heels นะจ๊ะ
Based in Bangkok, Thailand