กลับมาอีกครั้งกับทริปฟรุ้งฟร๊งตะมุตะมิแบบผู้ยิ๊งผู้หญิงที่ผู้ชายไม่มีวันเข้าใจ  คราวนี้เราจะไปตะลุยโซลกันค่ะ  กิน ช็อป เที่ยว วน ๆ ไปไม่สาแก่ใจเราไม่กลับค่ะ

ทริปนี้พัดไปกับเพื่อนสาวแสนรู้ใจกันแค่ 2 คน  แค่บอกว่าจะไปโซลนางก็จองตั๋วจากไทเปทันทีแล้วก็ทำการบ้านมาให้เต็มที่  เรียกว่าพัดแทบไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากจองตั๋วเครื่องบินกับโรงแรม  ไปกับแอนนี่(เพื่อนสาวชาวไต้หวัน)เชื่อใจได้เลยเรื่องกินเรื่องเที่ยวเรื่องช็อปนางรู้ใจเป็นที่สุด !

Day 1 

พัดไปถึงตั้งแต่เช้าตรู่ 6 โมง ง่วงสุด ๆ ร่างพังสุด ๆ  ถึงแม้จะบิน BC ก็ตามแต่ได้นอนบนเครื่องจริง ๆ ก็แค่ 3 ชั่วโมง ไฟลท์แบบนี้นี่มันทำร้ายกันมากออกตีสองถึงหกโมงเช้านอนก็ไม่พอ  พัดพยายามหาไฟลท์ออกเช้าถึงบ่ายก็ไม่มีเลย  พอถึงปุ๊บพัดก็เข้าโรงแรมไปเช็คอินเลยค่ะ  ทริปนี้พัดพักที่ La Casa Hotel ตลอด 4 คืน โชคดีว่าที่โรงแรมนี้เค้าอนุญาติให้เชคอินเช้าได้แต่ต้องเสียตังเพิ่ม  แน่นอนว่าจุดนี้เราก็ต้องใช้เงินแก้ปัญหาไปค่ะ ไม่ไหวจริม ๆ ของีบก่อนสัก 4 ชั่วโมงค่อยว่ากัน …zzZ

La Casa Hotel เป็น boutique hotel เก๋ ๆ เล็ก ๆ อยู่ย่าน Garosu Gil ซึ่งเป็น area ที่ดีงามมากเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังต่อว่าดีงามยังไง  พัดพักห้องแบบ twin เป็น 2 เตียง queen size นอนสบายมากกกกกก หมอนนุ่มมมม ผ้าห่มฟู  เหมือนนอนอยู่บ้านเลย ฟินสุด ๆ  ห้องก็กว้างมีพื้นที่ให้วางกระเป๋าและถุงช็อปปิ้งที่กำลังจะงอกออกมาได้สบาย  มีโต๊ะทำงานแยกให้คนละโต๊ะด้วย  ส่วนห้องน้ำก็มีทั้งอ่างอาบน้ำและ shower room แยกกันค่ะ

 

นอกจากนั้นที่โรงแรมยังร้านอาหารสไตล์cafe, บาร์อยู่ชั้นบน, gym แล้วก็ที่พัดชอบมากก็คือ rooftopด้านบนค่ะเป็นสวนเล็ก ๆ มี glasshouse ด้วย จุ๊บุจิ๊บิมาก  และยังมีร้านขาย furniture และของตกแต่งบ้านด้วยค่ะ  พัดก็กวาดมาเพียบเค้าแพ็กใส่กล่องให้อย่างดีพร้อมโหลด

 

หลังจากได้งีบไปพักใหญ่พัดก็ออกไปทานกาแฟที่ร้านกาแฟที่อยู่หน้าโรงแรมนี่เองระหว่างรอเพื่อนสาวบินมาจากไทเป  กาแฟคือดีพัดชอบ Cream Latte อร่อยทั้งแบบร้อนและเย็น  ด้านบนกาแฟจะเป็นครีมเข้มข้น creamy มาก หวานมันทานแล้วสะใจสุด ๆ พัดชอบแบบร้อนมากกว่าเพราะเวลาดื่มครีมก็จะไหลเข้าปากด้วย  ใครที่ไม่ดื่มกาแฟ Ginger and honey tea เค้าก็อร่อยนะคะ

 

Garosu Gil เป็นย่านที่พัดชอบย่านนี้ที่สุดในโซลละ  มีร้านค้าเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ให้ช็อปสนุกมาก ร้านรวงตึกรามบ้านช่องแถวนี้ก็ตกแต่งสวยงามสุด creative ซึ่งหลาย ๆ ร้านที่เราตั้งใจจะไปกันก็อยู่แถวนี้ค่ะ   Line Store ก็อยู่บนถนนเส้นนี้เช่นกัน  ปกติพัดก็ไม่ได้ชอบไลน์อะไรขนาดนั้นนะ  แต่พอเข้าไปเหมือนถูกสิง! ของเค้าน่ารักไปหมด  กวาดมาเพียบทั้งที่ตอนแรกว่าจะไม่ซื้อ555 ร้านก็น่ารักน่าถ่ายรูปมาก ๆ ค่ะ

 

ส่วนตอนเย็นเราก็ไปทานหมู่ย่างเกาหลีร้านดังซึ่งก็อยู่หน้าโรงแรมเรานี่แหละ  คนเกาหลีเค้าว่ากันว่าอร่อยความรู้สึกส่วนตัวพัดว่าใช้ได้นะคะแต่ไม่ได้ประทับใจขนาดนั้นค่ะ  ถ้าขี้เกียจ ๆ ไม่อยากออกไปไหนไกลก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ แถมชื่อร้านก็อ่านไม่ออกด้วย555  พัดลืมถ่ายรูปมาอีกต่างหากเอาเป็นว่าใครอยากลองหันหน้าออกนอกโรงแรมอยู่ฝั่งตรงข้ามซ้ายมือหัวมุมถนนค่ะ

ยังไม่จบค่ะมากับพัดแน่นอนต้องมีของหวานทุกวัน  หลังทานอาหารก็ไปเดินย่อยที่ Garosu Gil แล้วทานขนมกันที่ Cafe de Paris พอดูเมนูแล้วเลือกไม่ถูกเลยโอ้ยมันน่ากินไปหมด  เลยสั่งขนม 2 เครื่องดื่ม 2 ตามที่เห็นนี่แหละค่ะ  อย่าถามว่าทานหมดมั้ย  ในส่วนของรสชาติพัดว่าก็ดีนะ  แต่ไม่ถึงกับ wow  หวานไปหน่อยทานได้ไม่ถึงครึ่งก็เริ่มจุกและเลี่ยน555  ร้านนี้มีหลายสาขาค่ะที่แถวเมียงดงก็มีนะคะ

 

Day 2

เริ่มวันใหม่ด้วย brunch ที่ร้าน Le Brunchie อยู่ใกล้ ๆ โรงแรมนี่เองแถว ๆ Garosu Gil จริง ๆ ร้านนี้เดิน ๆ เจอแล้วคือหิวมากไม่ไหวแล้วววววเห็นร้านดูดีคนเยอะอยู่เลยเข้าค่ะ  เซอร์ไพรซ์มากกกก อาหารอร่อยทุกจาน  พัดสั่ง Chicken Avocado Salad, Amatriciana, และ Eggs Benedict แนะนำเลย !

 

วันนี้ mission ของเราคือจะไปใส่ชุดฮันบกเที่ยววังค่ะ  Gyeongbokgung Palace ที่คนชอบไปกันเนี่ยพัดเคยไปมาแล้วแล้วไม่ปลื้ม  คราวนี้เราเลยจะไป Changdeokgung Palace แทนค่ะเพราะที่นี่เค้ามี Secret Garden ด้วยค่ะ  ดูแล้วน่าจะเหมาะกับการถ่ายรูปกับชุดฮันบก  พอมาถึงเราก็ซื้อตั๋วแล้วเลือกรอบว่าจะเข้าไปรอบไหนจากนั้นก็ไปเช่าชุดฮันบกค่ะ  อ่อใครใส่ชุดฮันบกมาเข้าวังฟรีนะคะ  แต่ส่วนของสวน Secret Garden ต้องซื้อแยกค่ะ

ร้านที่เช่าชุดฮันบกเนี่ยก็อยู่ใกล้ ๆ วังนี่เองค่ะข้ามถนนแล้วเดินมาไม่เกิน 5 นาทีก็ถึง  ชุดก็มีให้เลือกเยอะมาก  มีให้ครบชุดทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ(สิ่งเครื่องหัว) และกระเป๋าถือ  มีทั้งของผู้ชายผู้หญิงค่ะ  วันนี้พัดขอหวาน ๆ โทนสีพาสเทลตาม reference ที่หามา

 

เนื่องจากเช่าชุดเสร็จแล้วแต่เหลือเวลาอีกนานกว่าจะถึงรอบทัวร์วังของเราตรงข้ามร้านเช่าชุดมี Araio Museum และร้านกาแฟสุดเก๋ที่อยู่ใน museum Fritz Cafe  ซึ่งผสมผสานสตาปัตยกรรมแบบเกาหลีดั้งเดิมเดิมและสถาปัตกรรมแบบ modern เข้าด้วยกัน  เราเลยแวะนั่งเล่นจิบกาแฟเม้าท์มอยกันที่นี่ก่อนจะถึงเวลาเข้าชมสวนกันค่ะ

 

ได้เวลาพีกุงมาม่าเสด็จเข้าวัง Changdeokgung แล้วค่ะ มโนไปอีก 😛 ที่วังและสวนแห่งนี้ได้เป็น Unesco World Heritage ด้วยค่ะ  หลังจากเดินเล่นส่วนพระราชวังด้านนอกแล้วก็ได้เวลาทัวร์ Secret Garden  ไกด์ของเราวันนี้เป็นอาจุมม่าเกาหลีแต่งชุดฮันบกมาบรรยายให้เราฟังค่ะภาษาอังกฤษนางเลิศมาก  ทัวร์ Secret Garden นี้ใช้เวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง 30 นาทีนะคะ  ใครที่มโนมาล่วงหน้าแบบพัดว่าเข้าไปในสวนจะเจอสวนดอกไม้หลากสีสันให้ถ่ายรูปแบบที่พัดคิดล่ะก็  ผิดละค่ะ  เนื่องจากตามความเชื่อในสมัยนั้นที่ยึดหลัก “Modesty” ในสวนนี้จึงไม่มีดอกไม้ค่ะ  มีแต่สีเขียวเท่านั้น  จะมีก็แค่ดอกบัวในสระที่ยกเว้น  สวนนี้จุดประสงค์ใช้เพื่อพักผ่อนหย่อนใจของราชวงศ์ในสมัยนั้นเท่านั้นค่ะจึงไม่มีส่วนที่พักหรือที่อยู่อาศัยอยู่เลยค่ะ ที่อยู่อาศัยจะอยู่ด้านนอกสวนแยกกันชัดเจนค่ะ

 

หลังจากนั้นก็ไปคืนชุดค่ะ  OMG ช็อกแพร๊บบบบ เค้าไม่ซักชุดค่ะคุณ คืนเสร็จนางรีดแล้วแขวนให้เช่าต่อเลย  กรี๊ด! รู้สึกอยากกลับโรงแรมอาบน้ำขึ้นมาทันที

เรายังมีเวลาเหลือก่อนไปทานอาหารเย็นแป็บนึงพัดเลยแวะไปเดินเล่นแถวเมียงดง  จริง ๆ จุดประสงค์คือจะไป Style Nanda Pink Hotel เพราะมันน่าร๊ากกกกกกมาก เป็นร้านขายเสื้อผ้าตกแต่งในธีมโรงแรม เป็นสีชมพูทั้งร้าน  มี 5 ชั้นค่ะ  ส่วนด้านบนเป็นคาเฟ่ Pink Pool Cafe ขนมและเครื่องดื่มน่าตาน่ารักสุด ๆ อร่อยมั้ยไม่รู้จุดนี้ต้องสั่งมาถ่ายรูปแน่นอน  พอทานแล้วรสชาติเค้าก็ดีอยู่นะคะ

 

ในส่วนอาหารเย็นวันนี้เราไปทานชาบูเนื้อและหอยเป่าฮื้อกันค่ะ  เพื่อนชาวเกาหลีแนะนำมาอาหารหน้าตาดีมากแต่ทานแล้วเฟลสุด ๆ ไม่อร่อยเลยพัดเลยไม่จำชื่อร้านค่ะ บัยย์

 

แล้วเราก็ไปเดินเล่น Yeouido World River Night Market กันต่อค่ะ  เป็นทางยาวตลอดริมฝั่งแม่น้ำฮันหลายกิโลอยู่ค่ะ  ที่นี่จะมีอาหารขายเป็นพวก Food Truck มีสนามให้คนมานั่งปิกนิก มีนักร้องนักดนตรีมาเล่นดนตรีร้องเพลงเป็นระยะ ๆ ตลอดทางเดิน  และที่พัดชอบมากคือเค้ามีจุดพลุทุกวันเสาร์  ซึ่งก็คือวันนี้นี่เอง 😀

P.S. ใครดู Legend of the Blue Sea ที่นี่คือที่ ๆ ฮอจุนแจมาดูพลุกับชิมชองค่ะ  oops! คนรู้หมดเลยว่าเราเป็นติ่งเกาหลี 😛

 

Day 3

วันนี้พัดมีร้าน croissant แสนอร่อยมานำเสนอค่ะ ชื่อร้าน Mr. Holmes Bake House ร้านนี้ก็อยู่ย่าน Garosu Gil อีกเช่นกัน  เค้าดังครัวซองมาก ๆ พัดมาทานร้านนี้ 2 รอบเลยเพราะติดใจสุด ๆ ก็เลยได้ลองหลายเมนูค่ะ  พัดชอบ Ham & Chesse Croissant และ Chocolate Croissant เป็นพิเศษ  Matcha Croissant ก็อร่อย  และที่เป็น signature ของร้านนี้ก็คือ Cruffin ซึ่งเป็นการผสมระหว่าง Croissant กับ Muffin พัดสั่ง Earlgrey & Chocolate Cruffin มาข้างในจะเป็นซอสช็อกโกแล็ตผสมกับชาเอิร์ลเกรย์  หอมอร่อยดีค่ะ ส่วนเครื่องดื่มพัดสั่ง Cafe Latte กับ Caffe Mocha อันหลังช็อกโกแล็ตเยอะไปนี๊สสส์จนแทบจะเป็น Hot Chocolate แล้วค่ะ  ส่วนตัวพัดประทับใจร้านนี้มาก ๆ ค่ะร้านสวย  อาหารเครื่องดื่มก็อร่อยมากค่ะ

 

อิ่มแล้วเราก็ไปshoppingกันต่อที่ Hongdae ค่ะ  ย่านนี้เป็นย่านที่นักศึกษาชอบมากันค่ะ  ก็จะมีร้านค้า ร้านเสื้อผ้าเยอะมาก ๆ ร้านอาหารก็เยอะค่ะ

 

เดินช็อปซักพักเริ่มหิวค่ะ  จุดนี้เจอร้านอะไรก็ทานละขอให้เป็นอาหารเกาหลีเป็นพอ  แล้วเราก็มาเจอร้านนี้พอดีอ่านชื่อก็ไม่ออกอีกแล้วมีแต่ภาษาเกาหลี  รสชาติดีทีเดียวค่ะ

 

ต่อด้วยของหวานสิคะรออะไร  เดินมาอีกจิ๊ดเดียวมีร้านไอศครีมที่เมื่อกี้เล็งไว้  น่าตาน่ารักมาก ๆ รสชาติก็ดีซะด้วยค่ะ

 

จากนั้นเราไปเดินเล่นกันต่อที่ย่าน Itaewon ย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่อง nightlife ร้านอาหาร ผับ บาร์ เยอะทีเดียว  นอกจากนี้เราตั้งใจจะมาทานอาหารเย็นกันที่นี่ด้วยค่ะเพราะมีร้านเนื้อย่างสุดอร่อย

 

ร้าน Maple Tree เป็นร้านเนื้อและหมูย่างเกาหลี  อาหารทะเลก็มีนะคะ  บอกเลยว่าเด็ด  อร่อยมากค่ะทั้งเนื้อและหมู  แต่พัดให้คะแนนหมูมากกว่า  เครื่องเคียงเค้าก็ดีทุกจานค่ะ

 

Day 4

วันนี้เราไปเดินเล่นกันแถว Gangnam ค่ะ  เป็นย่านไฮโซมี luxury brand แทบทุกยี่ห้อบนถนนเส้นนี้ ความตั้งใจของเราวันนี้คือมาทาน afternoon tea กันที่ Café Dior by Pierre Hermé ค่ะซึ่งอยู่ชั้นบนของ House of Dior  ร้านตกแต่งสวยงามมากกกกกกก ในส่วนของขนมและเครื่องดื่มก็ดีงามทุกจาน  ปลื้มปริ่ม รักร้านนี้บอกเลย พัดสั่ง French Toast และ Millefuille ส่วนเครื่องดื่มเป็นชา Ispahan หอมมาก ๆ และ Viennese Coffee นอกจากชากาแฟที่นี่ยังมีค็อกเทลด้วยค่ะรสชาติดีเลย

 

แล้วเราก็ไปตึกที่สูงที่สุดของเกาหลีใต้ในตอนนี้กันค่ะซึ่งก็คือ Lotte World Tower จะเป็น shopping mall ด้วยไปเดินเล่นshoppingกันกรุบกริบ ๆ มี exhibition ด้วยน่ารักมาก ๆ พัดเลยแวะเข้าไปดูค่ะ  ส่วนด้านบนที่เป็นจุดชมวิวพัดไม่ได้ขึ้นไปค่ะเพราะวันนี้เค้าบอกว่าอากาศไม่ดีขึ้นไปแล้วจะมองไม่ค่อยเห็นวิวนักค่ะ

 

แล้วพัดก็ทานอาหารเย็นที่นี่ด้วยค่ะร้านนี้เดินผ่านแล้วมันน่าโดนม๊ากกกกกก  ร้าน Saint Maison เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสและญี่ปุ่นแบบ Omakase ค่ะ  เค้าจะแยกโซนกันเลยต้องเลือกค่ะจุดนี้ว่าจะทานอะไรจะรักพี่เสียดายน้องสั่งมาทานด้วยกันสไตล์คนไทยไม่ได้ค่ะ

 

พัดเลือกทานเป็นอาหารฝรั่งเศสค่ะจะมีเป็นเซ็ตเมนู  สำหรับดินเนอร์มีแค่ 2 แบบ 2 ราคาให้เลือกเท่านั้นค่ะพัดก็เลยเลือกมาลองทั้ง 2 แบบเลย

 

อิ่มแล้วเราก็ไป DDP หรือ Dongdaemun Design Plaza กันค่ะ  ทานอาหารเพลินไปหน่อยกว่าจะรู้ตัวก็ 3 ทุ่มเข้าไปแล้ว museum เค้าปิดแล้วค่ะเลยได้แค่ถ่ายรูปกับสวนดอกกุหลาบ LED Rose  มันน่ารักมากเลยชอบมากกกก

 

Day 5

วันนี้ตื่นสายอีกตามระเบียบเลยควบมื้อเช้าและเที่ยงไปเลย  ร้านนี้ตั้งใจจะมาหลายวันแล้วไม่ได้มาซะทีจนจะกลับแล้วก็คือร้าน Hot & Spicy Hot Pot ชื่อ Wooganae อยู่แถว Garosu Gil อีกเหมือนกันค่ะ เป็นร้าน local มาก ๆ ที่ร้านนี้มีแต่ชื่อภาษาเกาหลีนะคะไม่มีป้ายภาษาอังกฤษ  บอกเลยว่าร้านนี้เด็ดมากกกกก พัดชอบมาก ๆ เมนูเด็ดก็คือ Spicy Steam Pork Ribs ดีงามมาก  ทานกับข้าวสวยหรือข้าวคลุกสาหร่ายก็อร่อยทั้งคู่ค่ะแต่พัดชอบข้าวคลุกสาหร่ายมากกว่า  ซึ่งข้าวคลุกสาหร่ายนี้เค้าจะให้มาคลุกเองพร้อมกับถุงมือพลาสติกแล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ นอกจากนี้ก็มีไข่ตุ๋นก็อร่อยเสิร์ฟมาตอนเดือดปุด ๆ  แล้วก็ Kimchi Stew อันนี้พัดว่ารสชาติดีแต่สู้ Spicy Steam Pork Ribs ไม่ได้เลยยยยย  และที่เริ่ดอีกอย่างก็คือเราสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ด้วย  พัดเลือกแบบ 30% พัดว่ากำลังดีค่ะ

 

Tips

สำหรับ Wifi ทริปนี้พัดใช้ Pocket Wifi ของ Zamurai Wifi ซึ่งสามารถไปรับเครื่องและคืนเครื่องได้ที่สนามบินเลยค่ะ  สะดวกมาก ๆ และสัญญาณก็ดีมาก  ตลอดเวลาที่อยู่ที่เกาหลีเน็ตแรงมากไม่มีสะดุดเลยพัดว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่จะไปเกาหลีนะคะ

ใครที่ตั้งใจจะมาเที่ยวเกาหลีเองแล้วพึ่งพา Google Map คอยบอกทางบอกเลยว่าพังแน่ ๆ ค่ะ  เพราะ Google Map ที่นี่มันไม่เวิร์คมาก ๆ ค่ะไม่สามารถให้นำทางได้เนื่องจากรัฐบาลเกาหลีไม่อนุญาติเนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยทางทหารค่ะ  เราเลยสามารถ search หา location ได้อย่างเดียวแต่ไม่สามารถให้นำทางได้นะคะ