เมื่อพูดถึงประเทศ United Arab Emirates คนส่วนมากมักจะนึกถึง Dubai แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกเมืองที่ทันสมัยหรูหราไฮโซโบว์ใหญ่ไม่แพ้กันก็คือ Abu Dhabi ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเค้าค่ะ วันนี้พัดจะพาไปเริ่ด ๆ เชิ่ด ๆ กันที่เมืองนี้นี่แหละค่ะ
Where to Stay
เรามาดูที่พักกันก่อนดีกว่า พัดเลือกพักที่ Anantara Eastern Mangrove Abu Dhabi ค่ะ โรงแรมอยู่ริมแม่น้ำที่รายล้อมไปด้วยป่าโกงกางตัดกับความเป็นเมืองมาก ๆ ด้านหน้าโรงแรมนี่มีแต่ตึกแต่พอด้านหลังโรงแรมกลับได้ความใกล้ชิดธรรมชาติดูสงบมากค่ะ ช่วงเย็น ๆ พัดจะชอบนั่งเล่นที่ระเบียงดูวิวชิลล์มากค่ะ
นอกจากนั้นที่โรงแรมนี้ยังมีสปาด้วยค่ะ ที่โรงแรมแนะนำให้พัดลองทำ Hammam ซึ่งก่อนหน้านี้พัดเคยเห็นห้อง Hammam ที่ Anantara Spa ที่โอมานแล้วก็อยากลองมาก ๆ พอสบโอกาสมาที่อาบูดาบีมีทรีตเมนท์นี้ด้วยเลยจัดไปค่ะ
Hammam ก็คือการขัดตัวผลัดเซลล์ผิวแบบล้ำลึกค่ะ เริ่มจากอาบน้ำ อบไอน้ำ สครับทั้งตัวทุกซอกทุกมุมจริง ๆ แล้วก็มาฟอกสบู่ซึ่งอันนี้เก๋มาก ๆ พนักงานเค้าจะเอาผ้ามาจุ่มลงไปในอ่างที่ผสมสบู่แล้วมาตีฟองอธิบายไม่ถูกแต่มันแบบ amazing มากเหมือนเล่นมายากลให้ดูเลย รู้สึกสนุกทุกครั้งที่เค้าตีฟองเอามาราดบนตัว ทรีตเมนท์นี้ใช้เวลาประมาร 1 ชั่วโมงค่ะแต่ว่าไม่ต้องกลัวว่าตัวเปียก ๆ ตลอดแถมนอนแก้ผ้าแบบนี้แล้วจะหนาวนะคะ เพราะเค้าจะให้เรานอนบนแท่นหินร้อนค่ะ(แท่นใหญ่มากกกกกก ตอนแรกนึกว่าสำหรับ 4-5 คน) แล้วที่พัดประทับใจมากที่สุดก็คือความอลังงงงงงงงของห้อง Hammam ค่ะ ห้องนี้เราครอบครองแต่เพียงผู้เดียว เห็นแล้วนึกถึงฮาเร็มเลย555
Tourist Attraction
ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการมา Abu Dhabi ก็คือการมาเยือน Sheikh Zayed Mosque ซึ่งสวยม๊ากกกกกพัดอยากมาที่นี่มานานแล้ว นอกจากนั้นยังเป็นสุเหร่าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเค้าด้วยค่ะ
ประเทศนี้ถึงแม้จะเห็นว่าเค้าทันสมัยมากก็ตามแต่ในเรื่องของศาสนาถือว่าเคร่งมากทีเดียวเชียวค่ะ เพราะฉะนั้นเค้าก็จะมี dress code ของการเข้าเยี่ยมชมสุเหร่าค่ะว่าจะต้องใส่ผ้าคลุมผม ใส่เสื้อผ้ามิดชิดแขนยาวขายาวหรือจะเป็นกระโปรงก็ได้แต่ต้องคลุมเท้า ใครที่เคยอ่าน article Muscat, Oman แล้วพัดพาไปสุเหร่าที่นั่นบอกเลยว่าที่โอมานเค้าค่อนข้างจะชิลล์ แต่งตัวถูกระเบียบประมาณนึงแต่ไม่เคร่งต่างจากที่นี่มากค่ะ ใครแต่งตัวไม่ถูกต้องเค้าจะมีชุดให้ยืมค่ะแต่มันก็จะไม่สวยงามเท่าไหร่ แล้วนอกจากนั้นที่นี่ไม่อนุญาติให้นำ pocket WiFi เข้าไปข้างในนะคะใครนำมาจะต้องฝากไว้ที่ทางเข้าค่ะ
Where to Eat
มื้อเย็นวันนี้เราจะไปดินเนอร์สวย ๆ กันที่ BBQ Alcazar เป็นร้านสเต็กริมหาดบรรยากาศดีมากกกก เหมาะสำหรับมาเดทสุด ๆ ค่ะ ร้านนี้อยู่ในโรงแรม Emirates Palace ซึ่งเป็นโรงแรมที่เว่อร์วังที่สุดในเมืองเลยก็ว่าได้ค่ะ (ขอให้นึกภาพโรงแรมที่มาเก๊า แต่เป็นสไตล์อาหรับ)
ส่วนของร้านอาหารร้านนี้จะอยู่ด้านนอกริมแม่น้ำค่ะ บรรยากาศก็จะโรแมนติกทีเดียวแนะนำว่ามานั่งสวีทกับแฟนก็เริ่ดอยู่นะคะ อากาศดีลมเย็นมองเห็นวิวพระราชวังอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ ใครจีบสาวอยู่พามาร้านนี้รับรองได้คะแนนเพิ่มค่ะ XD
อาหารรสชาติดีทีเลยพัดชอบ ribs ของร้านนี้มาก ๆ ค่ะ ใครมาแนะนำจานนี้เลยค่ะอร่อยสุด ๆ
พัดมาที่เมืองนี้แค่ 1 คืนค่ะอีกวันพัดก็ check-out แล้วออกไปดูไบเลยก็เลยได้ที่ยวแค่นี้ ใครที่กำลังวางแผนจะมาเที่ยว Abu Dhabi จริง ๆ พัดว่า 2 วัน 1 คืนก็พอแล้วนะคะไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไหร่ article นี้เลยสั้นมาก น่าจะมากที่สุดที่เคยเขียนมาแล้วค่ะ
Transportation
เหมือนเดิมจาก article ก่อน ๆ ค่ะ ทริปนี้พัดเช่ารถขับทั้งทริปค่ะ เช่ารถจากที่สนามบินดูไบเพราะพัดเครื่องลงที่นั่น สะดวกมากค่ะแนะนำว่าใครมาเที่ยวที่นี่มีรถขับคือสบายมากกกกก ถนนหนทางก็ดีมาก แล้วก็ใช้ google map ได้ไม่มีปัญหาเลยค่ะ
What to Wear
พัดมาช่วงเดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงปลายของ high season ของเค้าค่ะ อากาศก็จะไม่ร้อนมากไป ช่วงที่อากาศดีของเค้าคือ ตุลาคม-พฤศจิกา และ มกราคม-มีนาคม อากาศสบาย ๆ กลางวันกับกลางคืนอากาศไม่ต่างกันมากเกินไปจนแต่งตัวไม่ถูกค่ะ
ในส่วนของเสื้อผ้าด้วยความที่เค้าเป็นเมืองมุสลิมที่เคร่งส่วนตัวเวลาพัดไปเที่ยวที่แบบนี้ก็จะให้เกียรติคนประเทศเค้าแต่งตัวเรียบร้อยมิดชิดหน่อย จริง ๆ ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวเค้าก็ไม่ได้มาอะไรกับเราหรอกค่ะ ยกเว้นเข้าไปสถานที่ทางศาสนาของเค้า ซึ่งอย่างที่บอกว่าที่ Sheikh Zayed Mosque เค้าก็มีชุดคลุมให้ใส่ค่ะ แต่ใครอยากแต่งสวยงามตามท้องเรื่องก็ต้องแต่งตัวมิดชิดให้ตรงตามกฎของเค้านะคะ